"อานันท์"แถลงกก.4 ฝ่ายส่งบัญชี 18 ประเภทโครงการส่งผลกระทบรุนแรงให้นายกฯแล้ว

ข่าวทั่วไป Monday June 28, 2010 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย แถลงว่า คณะกรรมการได้ส่งบัญชีโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างร้ายแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม, ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ รวม 18 ประเภท ให้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว หลังจากสรุปโดยคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อการปรับปรุงรายการโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ และ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการวินิจฉัยโครงการ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงด้านสุขภาพ

สำหรับ 18 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการหรือกิจการที่ต้องทำ EIA และอยู่ในพื้นที่หรืออาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่อไปนี้ เช่น แหล่งมรดกโลกที่ขึ้นบัญชีตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ, อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณสถาน โบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ตามกฎหมาย, พื้นที่ป่าอนุรักษ์, พื้นที่ป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม ตามมติครม., พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ และพื้นที่ชุ่มน้ำชั้น 1

2.การถมทะเล หรือทะเลสาบนอกเขตชายฝั่งเดิม ไม่รวมการฟื้นฟูสภาพชายหาด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม, แหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์, แหล่งท่องเที่ยว และแหล่งอาชีพท้องถิ่น

3.การก่อสร้างหรือขยายสิ่งก่อสร้างถาวรนอกชายฝั่งทะเลเดิมเพื่อกันคลื่นหรือกระแสน้ำในทะเล ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม, แหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์, แหล่งท่องเที่ยว และแหล่งอาชีพท้องถิ่น

4.เหมืองต่างๆ ดังนี้ เหมืองแร่ใต้ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการเหมืองแร่ ยกเว้นเหมืองที่อยู่ในชั้นหินแข็งที่มีความแข็งตั้งแต่ 80 เมกาปาสคาลขึ้นไป, เหมืองตามกฎหมายว่าด้วยการทำเหมืองแร่สำหรับแร่ตะกั่ว แร่สังกะสี แร่ทองคำ หรือเหมืองแร่โลหะอื่นที่ใช้ไซยาไนด์หรือปรอท หรือตะกั่วไนเตรตในกระบวนการผลิต หรือเหมืองแร่โลหะอื่นที่อาร์เซโนไพไรต์เป็นแร่ประกอบ, เหมืองถ่านหิน เฉพาะกรณีลำเลียงออกนอกพื้นที่โครงการด้วยรถยนต์, เหมืองแร่ในทะเล

5.นิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรม หรือโครงการที่มีลักษณะเช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรม เช่น เขตประกอบการอุตสาหกรรม, สวนอุตสาหกรรม หรือโครงการจัดสรรที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมฯ ที่จัดตั้งเพื่อรองรับโรงงานปิโตรเคมี หรือโรงงานถลุงแร่เหล็กตามที่กำหนดไว้ในโครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 6 และ 7, นิคมฯ ที่มีจำนวนโครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 6 และ 7 มาเพิ่มภายหลังเกินกว่าจำนวนขณะขอจัดตั้งเดิม

6.โรงงานปิโตรเคมี ประกอบด้วย โรงงานปิโตรเคมีต้นน้ำ และโรงงานปิโตรเคมีกลางน้ำที่ผลิตสารเคมีหรือใช้สารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 และ กลุ่ม 2A

7.โรงงานถลุงแร่หรือหลอมโลหะ เช่น โรงถลุงแร่เหล็ก, โรงถลุงแร่เหล็กที่มีการผลิตถ่าน coke หรือที่มีกระบวนการ sintering, โรงถลุงแร่ ทองแดง ทองคำ หรือสังกะสี, โรงถลุงแร่ตะกั่ว, โรงหลอมโลหะ(ยกเว้นเหล็ก และอลูมิเนียม), โรงหลอมตะกั่ว

8.การผลิต หรือกำจัด หรือปรับแต่งสารกัมมันตรังสี ยกเว้นในส่วนของโรงพยาบาล, โรงพยาบาลสัตว์, การวิจัยและการพัฒนาฯ ในสาถบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัย

9.โรงงานฝังกลบ หรือเผาของเสียอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ยกเว้นการเผาในหม้อเผาซีเมนต์ที่ใช้ของเสียอันตรายเป็นวัตถุดิบชนิดทดแทน หรือเป็นเชื้อเพลิงเสริม

10.เตาเผาขยะติดเชื้อ

11.สนามบิน และสนามบินที่มีการขยายทางวิ่งที่มีความยาวทางวิ่งตั้งแต่ 1,100 เมตรขึ้นไป

12.ท่าเทียบเรือ โดยมีความยาวหน้าท่าที่เรือเข้าเทียบได้ตั้งแต่ 300 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่หน้าท่าตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป หรือที่มีการขดลอกร่องน้ำตั้งแต่ 100,000 ลูกบาศก์เมตร ขึ้นไป

13.เขื่อนกักเก็บน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ ที่มีปริมาตรเก็บกักน้ำตั้งแต่ 100 ล้านลบ.เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่เก็บกักน้ำ ตั้งแต่ 15 ตร.เมตรขึ้นไป

14.การชลประทาน ที่มีพื้นที่การชลประทานตั้งแต่ 80,000 ไร่ขึ้นไป

15.โรงไฟฟ้า เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน, โรงไฟฟ้าชีวมวล, โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ, โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ใช้ระบบพลังงานความร้อนร่วมชนิด combined cycle หรือ cogenration, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

16.การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำหลัก หรือการผันน้ำระหว่างประเทศ ยกเว้นกรณีภัยพิบัติหรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศที่เป็นการดำเนินการชั่วคราว

17.สิ่งก่อสร้างกั้นขวางการไหลของน้ำในแม่น้ำสายหลัก

18.การสูบน้ำเกลือใต้ดิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ