สหรัฐหวั่นเฮอริเคนอเล็กซ์ทำให้เกิดสตอร์มเสิร์จกระหน่ำโรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่ง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 30, 2010 14:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พายุอเล็กซ์ได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกในมหาสมุทรแอตแลนติกแล้วในขณะนี้ ขณะที่บริษัทน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกพากันอพยพคนงานออกจากพื้นที่ และเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือ storm surge ที่จะส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่ง

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุอเล็กซ์เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 75 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห่างจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบรอนส์วิลล์ประมาณ 255 ไมล์ โดยคาดว่าพายุอเล็กซ์จะเคลื่อนตัวถึงชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก หรือ ทิศใต้ของรัฐเท็กซัสในวันนี้

"อันตรายของคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือ storm surge คือการหนุนน้ำทะเลให้สูงขึ้นถึง 3 - 5 ฟุตจากระดับพื้นดินทันทีตลอดแนวชายฝั่งตอนกลางไปจนถึงตอนเหนือ จากนั้นก็จะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ตามมาอีกมากมาย ซึ่งเป็นคลื่นที่มีอำนาจทำลายล้างสูง" ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์เตือน

นายบิล เดย์ โฆษกบริษัทวาเลโร เอนเนอร์จี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐที่มีโรงกลั่น 3 แห่งในรัฐเท็กซัสตอนใต้ อาจได้รับความเสียหายจากพายุอเล็กซ์และจากภาวะน้ำท่วม ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงเตรียมมาตรการฉุกเฉินเอาไว้เพื่อรองรับภาวะขาดแคลนน้ำ อาหาร และอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้นสำหรับโรงกลั่นที่เป็นศุนย์กลางในการลำเลียงน้ำมันใกล้กับสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองซานแอนโตนิโอ

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติระบุว่า พายุอเล็กซ์เป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกในมหาสมุทรแอตแลนติก นับตั้งแต่พายุเฮอริเคนเอลลิสันก่อตัวขึ้นในปี 2538 ซึ่งอเล็กซ์ยังถือเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 1 ตามมาตรวัดของ Saffir- Simpson ที่กำหนดความรุนแรงของพายุเฮอริเคนไว้ 5 ระดับ โดยฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.

กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ภูมิภาคกัลฟ์โคสต์เป็นแห่งผลิตน้ำมันที่มีสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ โดยในช่วงเดือนส.ค. - ก.ย.ปี 2551 โรงกลั่นน้ำมันในกัลฟ์โคสต์ต้องสูญเสียมูลค่าการผลิตน้ำมันต่อวันประมาณ 20% เพราะถูกกระทบอย่างหนักจากพายุเฮอริเคนไอค์และกุสตาฟ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ