นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุมทางการเมือง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ทั้งโดยตรงและโดยผลสืบเนื่อง รวมเป็นวงเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดมีผู้ที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือราว 2 พันคน
สำหรับ กรณีความเสียหายที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้โดยจะคิดจากพื้นที่ความเสียหายเป็นตารางเมตร สูงสุดไม่เกิน 50 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 10,000 บาท หรือไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย ขณะที่พื้นที่ความเสียหายต่ำสุด เริ่มตั้งแต่ 5 ตารางเมตร หรือคิดเป็นความช่วยเหลือเริ่มที่ 50,000 บาท ส่วนกรณีความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องนั้น จะได้รับการชดเชยครึ่งหนึ่ง คือวงเงินช่วยเหลือสูงสุดไม่เกิน 250,000 และต่ำสุดที่ 25,000 บาท
ส่วนมาตรการช่วยเหลือเรื่องประกัน จะมอบให้นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์) ไปสรุปภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะพิจารณาจากกรมธรรม์และความเสียหายที่ผู้ประกอบการควรจะได้รับเป็นหลัก เบื้องต้นคาดว่าจะช่วยเหลือในมูลค่า 50% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายทั้งหมดยังสามารถไปร้องเรียนได้ที่กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่บริษัทประกันภัยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิ จะมีกองทุนที่พร้อมดูแลในการช่วยหาทีมทนายหรือช่วยดำเนินการฟ้องร้องทางคดีให้
ส่วนผู้เสียหายบางคนที่เกรงว่า ก่อนหน้านี้ได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทประกันไปบางส่วนแล้ว อาจไม่สามารถฟ้องร้องกับบริษัทประกันภัยได้ ก็ให้นำกรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัทประกันมาให้กรมคุ้มครองสิทธิช่วยตรวจสอบว่าผู้เสียหายจะเสียเปรียบบริษัทประกันหรือไม่
สำหรับมาตรการภาษี จะมีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลและนิติบุคคลสำหรับรายการดังต่อไปนี้ 1.เงินช่วยเหลือจากกรุงเทพมหานคร 10,000 บาท 2.เงินช่วยเหลือจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 50,000 บาท 3.เงินช่วยเหลือทรัพย์เสียหายจากรัฐบาล 4.เงินช่วยเหลือจากประกันภัย 5.เงินช่วยเหลือค่าจ้างที่ตกงาน 6.เงินช่วยเหลือนายจ้างที่ยังคงการจ้างงาน 7.เงินช่วยเหลือค่าเช่า และ 8.เงินสินไหมส่วนเกินจากส่วนเสียหายที่ตัดจำหน่ายออกจากบัญชี
สำหรับสินค้าที่เสียหายที่ตัดออกจากบัญชีจากเหตุการณ์ จะได้รับเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีอีก 100% แต่ไม่เกินมูลค่าของสินค้าที่เสียหายที่ตัดออกจากบัญชี, สำหรับอุปกรณ์สำนักงานเงินลงทุนเพื่อทดแทนอุปกรณ์สำนักงานที่เสียหายที่ตัดออกจากบัญชีจากเหตุการณ์ จะได้รับเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มอีก 100% ของมูลค่าที่ลงทุน แต่ไม่เกินมูลค่าอุปกรณ์สำนักงานที่เสียหายที่ตัดออกจากบัญชีเหตุการณ์ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายในปีภาษีที่เริ่มดำเนินการใหม่
นอกจากนี้ สำหรับสินทรัพย์ถาวร เงินลงทุนเพื่อสร้างสินทรัพย์ถาวรเพื่อทดแทนสินทรัพย์ถาวรที่เสียหายที่ตัดออกจากบัญชีจากเหตุการณ์ จะได้รับเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มอีก 100% ของมูลค่าที่ลงทุน แต่ไม่เกิน 50% ของมูลค่าดั้งเดิม(original price before write off) โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายในปีภาษีที่เริ่มดำเนินการใหม่