นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังประชุมเรื่องมรดกโลกที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนากยรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือถึงวาระการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.- 3 ส.ค.53 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งรัฐบาลไทยต้องรายงานความคืบหน้าแผนบริหารจัดการบริเวณพื้นที่ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่จะมีการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนหมายเลข 304 จากสองเลนเป็นสี่เลน โดยเห็นว่าการก่อสร้างลักษณะทางยกระดับจะไม่มีผลกระทบที่รุนแรงและสามารถแก้ไขปัญหาในภาพรวมได้และจะมีการปลูกป่าเพิ่มเติมในบริเวณที่มีการก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์
ที่ประชุมฯ ยังยืนยันท่าทีของรัฐบาลไทยในเรื่องกระบวนการเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหารว่า จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องเขตแดนก่อน หลังจากนั้นค่อยมาพูดถึงกระบวนการบริหารจัดการ หากเขตแดนยังไม่ชัดเจนก็คงจะไม่สามารถพิจารณาในเรื่องการบริหารจัดการได้ เพราะอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ ซึ่งตนเองจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและข้อมูลเหล่านี้ทุกฝ่ายทราบกันดีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไทยได้รับการสนับสนุนจากภาคีสมาชิกให้เป็นคณะกรรมการมรดกโลกและที่ผ่านมาได้รับเลือกตั้งให้เป็นรองประธานกรรมการมรดกโลกน่าจะเป็นจุดดีและทำให้ตนเองเชื่อมั่นว่ากรรมการและภาคีสมาชิกเริ่มมีความเข้าใจถึงได้ให้การสนับสนุนไทย และไทยมีการพูดคุยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการหารือกับทางกัมพูชา เพื่อกำหนดเขตแดนให้ชัดเจนเสียก่อน เมื่อคณะกรรมการร่วมชายแดนไทยกัมพูชากำหนดเขตแดนชัดเจนแล้วขึ้นตอนต่อไปก็จะไม่ใช่เรื่องยากและไม่มีปัญหา
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าทางการกัมพูชาจะเสนอเรื่องบริหารจัดการพื้นที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารเข้าเป็นวาระการประชุมของกรรมการมรดกโลก แต่ทางศูนย์มรดกโลกยังไม่ได้ส่งเอกสารให้กับทางกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณา ดังนั้นเรายังไม่เห็นเอกสารจึงไม่อยากจะพูดอะไรไปก่อน เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตามหากเอกสารในเรื่องนี้มีเป็นจำนวนมากก็คงมีการถกแถลงกันในที่ประชุม ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม แต่โดยปกติแล้วในการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาพร้อมกับเอกสารหลักฐานไปพร้อมๆ กันก่อนที่จะตัดสินใจ