มาริสา ดิ นาตาเล ผู้อำนวยการมูดีส์ อนาไลติกส์ คาดการณ์ว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกซึ่งมีสาเหตุมาจากการระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของ บีพี พีแอลซี อาจส่งผลให้ประชาชนในภูมิภาคกัลฟ์โคสต์ต้องตกงานถึง 17,000 ตำแหน่ง และคาดว่ามูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาจสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปลายปีนี้ หากการรั่วไหลของน้ำมันยืดเยื้อไปจนถึงเดือนหน้า
นอกจากนี้ มูดีส์ระบุว่า หากพิจารณาจากการประมาณการขั้นเลวร้ายว่า การรั่วไหลของน้ำมันจะยืดเยื้อไปจนถึงเดือนธ.ค. และจากการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขยายเวลาการระงับการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งออกไปเป็น 6 เดือน ก็อาจทำให้มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นเป็น 7.4 พันล้านดอลลาร์ และอาจทำให้มีคนตกงานมากกว่า 100,000 คน
รัฐหลุยเซียนาซึ่งต้องพึ่งพาการประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการกลั่นน้ำมัน และรัฐฟลอริด้าซึ่งต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเทียว มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบหนักสุดจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ส่วนบริเวณรอบนอกภูมิภาคกัลฟ์โคสต์ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐสำคัญ 5 รัฐ รวมถึงเท็กซัส อลาบามา และมิสซิสซิปปี อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไม่มากนัก