นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางขณะนี้ (ณ วันที่ 21 ก.ค. 53) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 33,052 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯทั้งหมด โดยปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ(ตั้งแต่ 17 — 21 ก.ค. 53) จำนวน 13 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำใช้การได้ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 3,319 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
ทั้งนี้ ผลจากอิทธิพลของพายุ “โกนเซิน” ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดน่าน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 17 — 21 ก.ค. 53 รวม 173 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำใช้การได้ 469 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 165 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯทั้งหมด อิทธิพลของพายุ “โกนเซิน” ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำตั้งแต่วันที่ 17 — 21 ก.ค. 53 จำนวน 17 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำใช้การได้ 129 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคอีสาน ส่วนใหญ่ยังคงมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ไม่ว่าจะเป็น เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 133 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 355 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 270 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 87 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 59 ล้านลูกบาศก์เมตร
ในเขตพื้นที่ภาคกลาง ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาทิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 93 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 53 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต้องเฝ้าระวัง ปริมาณน้ำใช้การในลุ่มน้ำเจ้าพระยารวม 865 ล้าน ลบ.ม. แยกเป็นเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ 669 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 67 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 129 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง มีน้ำไหลเข้าอ่างฯอย่างต่อเนื่อง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ 82.10 ล้าน ลบ.ม. สำหรับเขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคลองสียัดและเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่อง