แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลให้เร่งยกเลิกข้อผูกพันทั้งหมดที่ไทยมีต่อกัมพูชาเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร เพราะหากไทยยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จะส่งผลให้ต้องสูญเสียดินแดนเพิ่มอีก 1.5 ล้านไร่ นอกเหนือจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณชายแดนไทยที่มีปราสาทขอมทั้งหมด รวมถึงพื้นที่ทางชายทะเลให้กับประเทศกัมพูชาไปอีกครึ่งหนึ่ง
"วันนี้ไม่ใช่เรื่องของสี แต่เป็นเรื่องของประเทศ ไม่ใช่การสูญเสียแค่การท่องเที่ยว แต่รวมไปถึงทรัพยากรธรรมชาติ จึงฝากไปถึงนายสุวิทย์(คุณกิตติ) หากคณะกรรมการมรดกโลกยอมรับนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเสียดินแดน รัฐบาลก็จะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้ไทยเสียดินแดน" นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าว
เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา กัมพูชาอ้างแผนที่แสดงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งขาดความชอบธรรมเพราะจัดทำขึ้นโดยประเทศฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งประเทศไทยไม่เคยยอมรับมาก่อน เพราะมีการลากเส้นแผนที่ตามอำเภอใจโดยไม่ยึดหลักสันปันน้ำและหลักธรรมชาติ ทำให้เขตแดนรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยจำนวนมาก
"เอาความรักความเกลียดทิ้งไว้ข้างตัว แล้วเอาชาติไว้ก่อน ถ้าไม่เชื่อผม เราจะต้องเสียดินแดนไป นักการเมืองมาแล้วผ่านไปไม่รับผิดชอบ ขณะที่นักการเมืองบางคนก็แอบติดต่อกับบริษัทน้ำมันข้ามชาติหาผลประโยชน์" นายสนธิ กล่าว
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลสามารถเรียกตัวนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิลให้เดินทางกลับมาได้ เพราะการเข้าร่วมประชุมเท่ากับเป็นการยอมรับการกระทำของคณะกรรมการมรดกโลก ตลอดจนยอมรับการใช้แผนที่ของกัมพูชา การเข้าร่วมประชุมเพื่อเลื่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกด้วยอ้างเหตุผลว่าปักปันเขตแดนไม่แล้วเสร็จก็มิใช่การแก้ไขในเรื่องแผนที่
"หากไทยไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารก็จะทำให้กัมพูชาไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ ผมรู้สึกเสียใจมากที่มีทหารบางคนเอาธุรกิจการทำบ้านจัดสรรในกัมพูชามาแลกกับการเสียดินแดนในพื้นที่ดังกล่าว" นายสนธิ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมทั้งเตรียมยื่นศาลปกครองและคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียดินแดนทั้งหมด โดยขอรอดูผลของการประชุมมรดกโลกก่อน
ขณะที่นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า รัฐบาลอย่าติดกับปัญหาการเมืองเพื่อรักษาหน้าตากลบเกลื่อนความผิดพลาดของพรรคประชาธิปัตย์แล้วไม่แก้ปัญหา เพราะเกรงว่าจะทำให้ตัวเองเสียทางการเมือง รัฐบาลต้องเคารพคำสั่งศาลปกครองด้วย คนไทยไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรก็คงจะยอมให้เสียดินแดนไม่ได้ แต่ขณะนี้เหมือนกับว่ารัฐได้ใจจากการคุมกระแสข่าวเอาไว้ แต่ถ้าเกิดเสียดินแดนขึ้นมาจะเสียอย่างยั่งยืน จึงอยากจะเตือนให้หวนย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ที่รัชกาลที่ 5 ได้ให้วิสัยทัศน์ปกป้องพื้นแผ่นดินเอาไว้ แต่ลูกหลานกลับจะทำให้เสียไป
โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า การยอมรับ MOU 2543 ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งอาจเป็นการทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้นหากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจควรใช้โอกาสนี้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางพลังงานในอ่าวไทยเป็นหลักสำคัญ