นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้จัดตั้ง จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 โดยแยกจากการปกครอง 8 อำเภอออกมาจาก จ.หนองคาย ที่เดิมมีอยู่ 17 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เซกา, อ.โซ่พิสัย, อ.บุ่งคล้า, อ.บึงกาฬ, อ.บึงโขงหลง, อ.ปากคาด, อ.พรเจริญ และ อ.ศรีวิไล
"จังหวัดหนองคายประสบปัญหาการบริหารราชการและการแก้ไขปัญหาด้านชายแดนแก่ประชาชนไม่สะดวกทั่วถึง เนื่องจากมีระยะทางไกลประมาณ 350 กิโลเมตร หากมีการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬจะทำให้ส่วนราชการสามารถลงไปแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้สะดวก รวมทั้งปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบค้าของเถื่อน การโจรกรรมทรัพย์สินตามแนวชายแดน และปัญหาแรงงานต่างด้าว จะได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" มติ ครม.ระบุ
โดยจะมีประชากรทั้งหมดประมาณ 3-4 แสนคน มีพื้นที่ประมาณ 4,305.7 ตารางกิโลเมตร ซึ่งหลังจากสำรวจประชามติเกี่ยวกับการแยกจังหวัดพบว่าประชาชน 98.83% เห็นด้วยกับการแยก จ.บึงกาฬ ออกมาจาก จ.หนองคาย
สำหรับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 730 ล้านบาท โดยใช้เพื่อก่อสร้างสถานที่ราชการ และสาธารณูปโภคราว 500 ล้านบาท แต่กระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าในเบื้องต้นจะยังไม่มีการขอใช้งบประมาณในส่วนนี้ เนื่องจากมีความพร้อมของส่วนราชการที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เช่น ศาลจังหวัดบึงกาฬ อัยการจังหวัด ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ไปรษณีย์ ฯลฯ และได้สงวนที่ดินสำหรับสร้างศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬไว้ประมาณ 870 ไร่ บริเวณที่สาธารณประโยชน์กุดทิง ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบึงกาฬ โดยมิต้องใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก
ทั้งนี้ให้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การจัดตั้ง จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เรื่องการเมือง เพื่อสลายฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ จ.หนองคาย แต่ยอมรับว่าเป็นการแก้ดวงเมือง เพราะเดิมมี 76 จังหวัด เลขรวมกันได้ 13 เป็นเลขไม่ดี ไม่เป็นมงคล ทำให้เกิดปัญหากับประเทศมาตลอด ไม่ว่าจะเป็ยภัยพิบัติสึนามิ ปัญหาความขัดแย้งในชาติเสื้อเหลืองเสื้อแดง
"เมื่อเพิ่มเป็น 77 จังหวัด เลขรวมกันได้ 14 รวมกันได้ 5 เป็นเลขมงคล แม้แต่ พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา โหรดูดวงเมืองก็ทำนายตัวเลขนี้ไว้ จากนี้จะนำเรื่องเข้าสภาฯ เพื่อออก พ.ร.บ.เป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป" นายทรงศักดิ์ กล่าว