นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คาดปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาจะคลี่คลายลงในระดับหนึ่งหลังดำเนินการจัดสรรให้ผู้แทนจำหน่ายอย่างทั่วถึง โดยยังคงเดินหน้าดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่ 1 ต.ค.51 ถึงปัจจุบันได้ดำเนินคดีตามกฎหมายและระเบียบไปกว่า 1.2 หมื่นรายแล้ว
"การจัดสรรครั้งนี้คาดว่าจะสามารถบรรเทาปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาและการร้องเรียนของกลุ่มผู้พิการได้" นายวันชัย กล่าว
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า หลักเกณฑ์การลงโทษกรณีจำหน่ายสลากเกินราคาหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น หากตรวจพบหรือมีการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายเกินราคาโดยนิติบุคคลหรือตัวแทนผู้ได้รับการสรรสลากโดยตรง หรือจำหน่ายเกินราคาโดยผู้ที่เป็นสมาชิกขององค์กรหรือนิติบุคคลที่ได้รับการจัดสรรจะมีการลงโทษตามลำดับ ตั้งแต่การตัดโควตาบางส่วนหรือทั้งหมดและการบอกเลิกสัญญา นอกจากนี้หากตัวแทนจำหน่ายประเภทใดขายโควตา หรือโอนสิทธิให้ผู้อื่นโดยไม่จำหน่ายเอง สำนักงานสลากฯ จะตัดโควตาและบอกเลิกสัญญาในจำนวนสลากที่รับไปจำหน่ายทันที
โดยสถิติการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาตั้งแต่งวดวันที่ 1 ต.ค.51 ถึงขณะนี้ได้มีการจับกุมแล้ว 12,081 ราย แยกเป็น ส่วนกลาง 5,449 ราย และส่วนภูมิภาค 6,632 ราย ซึ่งได้ดำเนินการปรับตามกฎหมายและตัดโควตาอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากมีผู้ที่ประสงค์จะร้องเรียน หรือแจ้งการจำหน่ายสลากเกินราคาสามารถโทรได้ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ โทรศัพท์ 0-2345-1466 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการจัดสรรและทำข้อตกลงจำหน่ายสลากการกุศลจำนวน 10 ล้านฉบับให้กับนิติบุคคล สมาคมผู้พิการ และมูลนิธิการกุศลต่างๆ เมื่อวันที่ 3-4 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 นิติบุคคล 3 รายๆ ละ 20,000 เล่ม กลุ่มที่ 2 นิติบุคคล 10 รายๆ ละ 1,500 เล่ม กลุ่มที่ 3 นิติบุคคล 250 รายๆ ละ 20 เล่ม และกลุ่มที่ 4 สมาคมผู้พิการและมูลนิธิการกุศลต่างๆ จำนวน 20,000 เล่ม โดยเฉลี่ยให้เท่ากันทุกหน่วยงานตามจำนวนที่แจ้งความประสงค์มา
ต่อมามีผู้แจ้งความประสงค์จะขอรับสลากไปจำหน่ายในกลุ่มที่ 3 และ 4 เป็นจำนวนมากกว่า 3,000 ราย ดังนั้นหากสุ่มเลือกเพียง 250 รายตามประกาศจะทำให้ปริมาณสลากไม่สามารถกระจายได้ตามความต้องการของผู้ประสงค์จะรับสลากไปจำหน่าย ประกอบกับมีการชุมนุมรียกร้องของกลุ่มผู้พิการบางกลุ่ม นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง จึงมอบหมายนโยบายให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลอนุมัติพิมพ์สลากบำรุงการกุศลเพิ่มอีก 4 ล้านฉบับ เพื่อนำไปจัดสรรเพิ่มให้กลุ่มที่ 3 และ 4
ดังนั้น กลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นนิติบุคคลจะได้รับจัดสรรรายละ 15 เล่ม รวมทั้งสิ้น 2,626 ราย ส่วนกลุ่มที่ 4 ได้จัดสรรให้กับผู้แทนจำหน่ายรวม 808 ราย ได้แก่ สมาคม/องค์กรผู้พิการจำนวน 388 ราย รายละ 45 เล่ม สมาคม/องค์กรการกุศลอื่นๆ อีก 420 ราย รายละ 19 เล่ม