สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสกับคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2553 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา โดยทรงเชิญชวนให้คนไทยทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้ อย่าตัดไม้ทำลายป่า เนื่องจากจะเป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดปัญหาภัยแล้ง หากประเทศไทยมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์จะช่วยให้มีแหล่งน้ำ แหล่งสมุนไพร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาโลกร้อน ดังนั้นการช่วยกันปลูกป่าทั่วประเทศจึงถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก
"เรื่องป่า ข้าพเจ้าพูดถึงเป็นประจำและไม่ย่อท้อที่จะพูดต่อไป เพื่อชักชวนให้คนไทยรักษาป่า อย่าตัดไม้ทำลายป่า จะทำให้ฝนฟ้าแล้งได้การมีป่าทำให้มีน้ำ เพราะป่าเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำทุกสายในประเทศไทย ต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำไว้ใต้ดิน ช่วยต้านทานแรงของน้ำป่า เป็นแหล่งสมุนไพร ของป่า เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และช่วยลดภาวะโลกร้อน ดังนั้นการที่ท่านทั้งหลายช่วยกันปลูกป่าทั่วประเทศจึงเป็นประโยชน์มาก"
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสถึงความห่วงใยพสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต่อปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงติดตามสถานการณ์น้ำอยู่ตลอด และทรงรับสั่งให้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคพิเศษขึ้นทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง โดยได้ส่งฝนหลวงลงไปช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามพื้นที่ต่างๆ ให้แก่ราษฎร ทำให้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำเพียงพอ และพื้นที่แห้งแล้งลดลงได้
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล่าถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า ขณะนี้คณะแพทย์ของ ร.พ.ศิริราช ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด เพื่อให้ทรงพระดำเนินได้อย่างแข็งแรงก่อนที่จะเสด็จออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับรับสั่งว่าทรงรู้สึกปลื้มใจประชาชนแม้ว่าจะเป็นคนต่างชาติต่างศาสนาที่ได้เดินทางมาจากหลากหลายสถานที่ เพื่อมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้หายจากพระอาการประชวร