นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่า รัฐบาลได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังองค์การสหประชาชาติ(UN) แล้วต่อวิธีดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชาในกรณีปราสาทพระวิหารด้วยหลักสากล หลังจากกัมพูชาอ้างว่าไทยมีความพยายามจะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ประเทศไทยได้ยึดหลักสากลในการแก้ปัญหา โดยมุ่งเน้นการเจรจาเป็นหลักและการดำเนินการยังเป็นไปตามกรอบกติกาภายใต้ MOU ปี 43 ซึ่งปัญหาความตึงเครียดในปัจจุบันที่แท้จริงนั้น สาเหตุสำคัญมากจากการที่กัมพูชาได้รุกล้ำเขตแดนของไทย รวมทั้งความพยายามของกัมพูชาที่จะขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารแต่เพียงฝ่ายเดียว
"ผมชี้แจง(ต่อ UN) ด้วยว่าปัญหาตึงเครียดในปัจจุบันมาจากกัมพูชามีการรุกล้ำเขตแดนไทย นี่คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการตามแนวทางสากล โดยใช้การเจรจาแก้ปัญหาก่อน และปัญหายังตึงเครียดมากเป็นพิเศษ เพราะกัมพูชาพยายามใช้กระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของปราสาทพระวิหารในการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวของกัมพูชา อันนำมาซึ่งความยุ่งยากในการบริหารจัดการแผนฯ และความตึงเครียดในพื้นที่" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนมั่นใจว่าในเวทีของการเมืองระหว่างประเทศและเวทีโลกนั้น รัฐบาลได้เร่งเดินหน้าให้เกิดความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างแท้จริง และชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงอย่างไร ซึ่งจะเป็นการทำงานของรัฐบาลควบคู่ไปกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ในการดำเนินตามกรอบ MOU ปี 43 รัฐบาลจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา พร้อมกับจะตั้งคณะกรรมาธิการโดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมก่อนที่รัฐสภาจะให้ความเห็นชอบเพื่อให้รัฐบาลไปดำเนินการใดๆ ต่อไป