ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม AMED III ช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Monday August 16, 2010 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย-ตะวันออกกลาง(Asia-Middle East Dialogue-AMED) ครั้งที่ 3 หรือ AMED III ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากกับประเทศชาติ

เนื่องจากภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นตลาดแหล่งเงินทุนและแหล่งพลังงานที่สำคัญของไทย ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจจึงเป็นเป้าหมายหลักของไทยในการประชุม AMED III โดย กต.หวังว่าข้อเสนอแนะทางนโยบายที่ได้รับจากการหารือและกิจกรรมคู่ขนานต่างๆ จะนำไปสู่โอกาสในการเจาะตลาดสินค้าไทยในตะวันออกกลางตลอดจนการดึงดูดการลงทุนจากตะวันออกกลางและความร่วมมือด้านอาหารและพลังงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น

นอกจากผลประโยชน์ภายใต้กรอบ AMED แล้ว ยังเป็นโอกาสให้ไทยได้กระชับความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิก AMED ในระดับทวิภาคี โดยเฉพาะกับประเทศที่ยังมีปฏิสัมพันธ์กับไทยอยู่น้อยเพราะอยู่ห่างไกลหรือไม่มีตัวแทนของประเทศไทยตั้งอยู่ โดยไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการหารือทวิภาคีเพื่อหาแนวทางกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้

อีกทั้งเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลกเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศ โดยความพร้อมของไทยในการต้อนรับผู้แทนระดับสูงจากกว่า 50 ประเทศ และการจัดการประชุมนานาชาติครั้งใหญ่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่สำคัญกว่าสถานการณ์ในไทยได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองได้อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับการประชุม AMED ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 47 ด้วยความริเริ่มของนายโก๊ะ จ๊ก ตง อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 49 ประเทศ และปาเลสไตน์ ทั้งจากภูมิภาคเอเชีย(เอเชียตะวันออก เอเชียใต้และเอเชียกลาง) ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ โดยกรอบการหารือแบ่งออกเป็น 3 สาขา ได้แก่ ด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และสื่อมวลชน โดยมีกลไกขับเคลื่อน 3 กลไกหลัก คือ 1.คณะกรรมการกำหนดนโยบาย(Steering Committee) 2.การประชุมระดับรัฐมนตรี และ 3.คณะทำงาน(Working Group) ด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ