บีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยว่า ต้นทุนการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกจนถึงขณะนี้พุ่งขึ้นแตะระดับ 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงต้นทุนการควบคุมการรั่วไหลของน้ำมัน การขุดเจาะ การสกัดการรั่วไหลของน้ำมันด้วยวิธี static kill การโบกซีเมนต์ การชดเชยความเสียหายให้กับรัฐต่างๆในเขตกัลฟ์โคสต์ การชดเชยความเสียหายให้กับบุคคล และต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ
แท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ของบีพีเกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และทำให้เกิดน้ำมันรั่วไหลครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา สำนักข่าวซินหัวรายงาน