กรมชลฯ เผยระดับน้ำเจ้าพระยายังสูงอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุน พร้อมคุมน้ำเหนือ

ข่าวทั่วไป Thursday September 9, 2010 14:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ระบุว่า ในระยะ 2 — 3 วันนี้ยังเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นอกเขตคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบางแห่งได้

สำหรับปริมาณน้ำเหนือในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยวันนี้(9 ก.ย.) มีปริมาณน้ำไหลผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑล(วัดที่สถานี C.29 อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา)ในเกณฑ์ 1,602 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชั้นใน จะอยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำด้วยการควบคุมปริมาณน้ำเหนือให้ไหลผ่านลงมาสมทบกับน้ำทะเลหนุนให้น้อยที่สุด

ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ณ วันที่ 9 ก.ย. 53 มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 40,925 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝนปีนี้ได้อีกกว่า 28,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ มีดังนี้ ภาคเหนือ อ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่มีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 5,383 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 6,271 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 525 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสาน อ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยที่ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 111 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 94 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีก 7 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 1,267 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 89 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 126 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 180 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในเขตพื้นที่ภาคกลาง ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 490 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 470 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 90 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 135 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 80 ล้านลูกบาศก์เมตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ