นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 1-2 วันนี้ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มการเกษตรของอำเภอชุมแสง 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางเคียน และตำบลโคกหม้อ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 2,538 ไร่ ระดับน้ำทรงตัว
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อยมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอมหาราช อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว
จังหวัดเชียงราย น้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนสายแม่สรวย-วาวี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 13-14 บ้านทุ่งพร้าว หมู่ที่ 8 ตำบลวารี อำเภอแม่สรวย เป็นระยะทาง 100 เมตร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางจังหวัด สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งออกซ่อมแซมถนนในเบื้องต้นแล้ว และได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลนางแล ตำบลท่าสุด และตำบลบ้านคู่ ราษฎรเดือดร้อน 6,486 ครัวเรือน 16,390 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,000 ไร่
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งรถผลิตน้ำ 2 คัน รถบรรทุกน้ำ 5 คัน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งเรือท้องแบน 12 ลำ สำหรับใช้ในการอพยพราษฎร และขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของออกจากพื้นที่ประสบภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ 37 นาย เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง