กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทวงมหาดไทย ระบุว่า ภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิจิตร นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และน่าน
จังหวัดเชียงราย น้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนสายแม่สรวย-วาวี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 13-14 บ้านทุ่งพร้าว หมู่ที่ 8 ตำบลวาวี เป็นระยะทาง 100 เมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งซ่อมแซมถนนในเบื้องต้นแล้ว และเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย รวม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลนางแล ตำบลท่าสุด และตำบลบ้านคู่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 6,486 ครัวเรือน 16,390 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 1,000 ไร่
จังหวัดพิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่ง รวม 4 อำเภอ 15 ตำบล ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิประทับช้าง อำเภอบึงนางราง และอำเภอโพทะเล
จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรในอำเภอชุมแสง รวม 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางเคียน และตำบลโคกหม้อ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 2,538 ไร่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อยเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอมหาราช อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล ปัจจุบันน้ำที่ท่วมขังเริ่มลดระดับลงแล้ว
จังหวัดน่าน น้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำน่าน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน รวม 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านดอนศรีสุข ชุมชนบ้านภูมินทร์ และชุมชนบ้านพงพะยอม
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว