นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว" ซึ่งจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ต.ค.53 นี้เป็นต้นไป หลังเตรียมความพร้อมมานาน 6 เดือนเพื่อให้ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในการเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อม 100% และได้ทดสอบระบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ระหว่างหน่วยบริการกับสปสช. เพื่อตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล
สำหรับสถานีอนามัยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อีกประมาณร้อยละ 3 ที่อยู่ห่างไกล ไม่มีระบบคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่จะสำเนาฐานข้อมูลรายชื่อจากส่วนกลางและปรับให้ทันสมัยทุกเดือน กำหนดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.3 เป็นต้นไป ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพการบริการในโครงการ “โรงพยาบาลยุคใหม่ เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม" หรือโรงพยาบาล 3 ดี มั่นใจว่าประชาชนจะมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้น
ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีซึ่งยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ยกเว้นกรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ เช่น อยู่ที่กรุงเทพฯ ไปเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถเข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐในจังหวัดเชียงใหม่ได้ทันที โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวรับบริการ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิทธิรับการรักษาฟรี เป็นไปตามชุดสิทธิประโยชน์โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งขณะนี้ครอบคลุมเกือบครบทุกโรค รวมถึงบริการทำฟัน การตรวจสุขภาพ และการฟื้นฟูสภาพหลังเจ็บป่วยในรายการที่เหมาะสม การรักษาฟรีเช่นโรคเอดส์ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต ถ้าจำเป็นสามารถผ่าตัดเปลี่ยนไต ล้างไต และมีบริการส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านฟรี ยกเว้นการล้างไตผ่านเครื่องซึ่งมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท รัฐจ่ายให้ 1,000 บาท ผู้ป่วยร่วมจ่ายเพิ่มเพียง 500 บาท และไม่ครอบคลุมการผ่าตัดตกแต่ง การปลูกถ่ายตับ ปอด และหัวใจ ซึ่งมีราคาสูงมาก