กรุงเทพมหานคร(กทม.)จะอาศัยอำนาจตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของภาคเอกชนที่อยู่ในแนวเวนคืนโครงการก่อสร้างถนนเลียบคลองบางเขนเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเจ้าของยังไม่ยอมรื้อถอนแม้ว่าจะรับเงินค่าตอบแทนไปบางส่วนแล้ว
"จะเริ่มรื้อตั้งแต่บริเวณชุมชนแสงสว่างพันธุ์ปลาเป็นต้นไปจำนวน 12 หลังจนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.2 และ สน.ท้องที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ มาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนาจการจราจรด้วย" นายบัญญัติ อุยยามวงศ์ ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กทม.กล่าว
ทั้งนี้ สำนักการโยธาได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเลียบคลองบางเขน สายเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนวิภาวดีรังสิต และสายเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 351 สายแยกของกรุงเทพมหานครควบคุม(มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3202(บึงกุ่ม) พ.ศ.2543 เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณดังกล่าว
ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการติดขัดไม่อาจก่อสร้างในระยะที่ 3 ต่อไปได้เนื่องจากติดปัญหาอาคารบ้านเรือนในแนวก่อสร้าง โดยบริเวณดังกล่าวมีโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืน จำนวน 151 หลัง รื้อถอนแล้ว 114 หลัง คงเหลือ 37 หลังที่เจ้าของรับเงินค่าทดแทนงวดแรกไป 75% ไปแล้วแต่ยังไม่ยอมรื้อถอนตามสัญญา
"สำนักการโยธาได้มีหนังสือแจ้งกำหนดการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ และแจ้งวางเงินทดแทนครบทั้ง 100% แล้ว ประกอบกับมีความจำเป็นต้องเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับจ้างจึงต้องเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวและจะหักค่าใช้จ่ายการรื้อถอนจากส่วนเงินทดแทนที่เจ้าของโรงเรือนจะได้รับ" นายบัญญัติ กล่าว