นายกฯ ชี้ตั้งศูนย์บริหารเหตุร้ายแรงจะเพิ่มกลไกดูแลสถานการณ์ให้รัดกุมขึ้น

ข่าวทั่วไป Thursday September 30, 2010 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นนั้น เพื่อต้องการให้มีกลไกเข้ามาช่วยเพิ่มในการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

"ไม่ได้มีสถานการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง แต่เป็นการทำกลไกต่างๆ ให้เกิดการกระชับ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาค่อนข้างถี่" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งสถานที่ราชการและสถานที่ของเอกชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ทั้งนี้ได้มีการกำหนดระยะเวลาที่ให้นำอาวุธส่งคืนให้ทางราชการ รวมทั้งการให้ครอบคลุมถึงผู้ที่มีอาวุธในครอบครองทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเท่านั้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีของนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาในคดีค้าอาวุธสงครามว่า รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารสามารถเป็นผู้ตัดสินใจได้ว่าจำเป็นต้องมีการส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท กลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ หรือไม่ แต่ทั้งนี้เห็นว่าควรจะรอฟังผลการตัดสินของศาลก่อน

ทั้งนี้ ในระหว่างที่เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แนะให้สหรัฐฯ พูดคุยกับรัสเซียในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี คำตัดสินหรือการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งของไทยย่อมทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกไม่พอใจ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกกดดันและการทำงานในด้านนี้จะคำนึงและยึดถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ