นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนใหม่ เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินงานก็จะยึดตามนโยบายของรัฐและนโยบายของกระทรวงต่อไป พร้อมขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการพัฒนาการเกษตร เพื่อให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นที่พึ่งของเกษตรกร และส่งผลทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
"การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ จะเกิดการพัฒนาต่อไปไม่ได้หากขาดการร่วมแรงร่วมใจจากทุกหน่วยงานในสังกัด"
ทั้งนี้ นายเฉลิมพรจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร์ตั้งวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป แทนนายยุคล ลิ้มแหลมทองที่เกษียณอายุราชการ
ด้านนายยุคล กล่าวว่า ในการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานในสังกัดที่ให้ความร่วมมือด้วยดี ทั้งการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และการดำเนินงาน/โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ทำให้ได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อกระทรวงเกษตรฯ เกษตรกร และประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งได้ฝากการสานต่องานตามนโยบายและภารกิจที่สำคัญ เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทั้งเรื่องเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม และในขณะเดียวกันภาคการเกษตรก็ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ประเทศเกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น การพัฒนาการเกษตรในยุคโลกาภิวัตน์ จะต้องคำนึงถึงแนวทางการพัฒนาของโลก ซึ่งเน้นเรื่องของสุขภาพ และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ คือ ด้านความปลอดภัยในอาหาร โดยขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลเอาใจใส่ในเรื่องนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในขณะนี้ รวมถึงขอให้เร่งดำเนินการพัฒนาการผลิตและส่งออกข้าวไทยที่มีคุณภาพ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลกและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว