นายกฯ ยันปชป.ใช้เงินกองทุนฯ 29 ลบ.โปร่งใส คาดกกต.ฟ้องเพราะถูกแรงกดดัน

ข่าวการเมือง Monday October 18, 2010 12:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังจากขึ้นเบิกความในฐานะพยานฝ่ายผู้ถูกร้องในคดียุบพรรค โดยยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ได้ใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาทอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้หากใช้จ่ายไม่ถูกต้องจริงคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะต้องแจ้งให้พรรครับทราบ แต่ในงบการเงินของพรรคเมื่อปี 48รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ มีความถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นจึงเชื่อว่าพรรคการเมืองที่เคยถูกยุบไปก่อนหน้านี้เป็นเพราะส่วนใหญ่ไม่ส่งรายงานงบการเงินหรือไม่ปฏิบัติตามที่ กกต.ระบุไว้

ส่วนกรณีที่ กกต.กลับเป็นผู้ฟ้องเรื่องนี้เอง ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการถูกต้องนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า อาจเป็นเพราะในขณะนั้น กกต.ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากหลายฝ่าย

"กรณีพรรคประชาธิปัตย์นั้น กกต.ได้ตรวจสอบความถูกต้องทุกอย่าง ก็ไม่เคยแจ้งให้พรรคปรับปรุงแก้ไข ผมในฐานะที่เป็นผู้ได้รับแจ้งจาก กกต.ถึงความถูกต้องของงบการเงินเมื่อปี 48 และค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งทุกอย่างที่ส่งมาที่ผม โดยประธาน กกต. และผมก็รับทราบ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะขอเวลาการรวบรวมการเบิกความในส่วนของพรรคทั้งหมด ก่อนจะสรุปส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเผยแพร่คลิปที่อ้างว่าทีมกฎหมายที่สู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์มีความพยายามจะล็อบบี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อล้มคดียุบพรรคว่า การปล่อยคลิปก่อนที่ตนจะต้องมาชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ถือเป็นความพยายามที่จะให้สังคมมองว่าหากศาลไม่ตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลายเป็นเรื่องสองมาตรฐาน

พร้อมเชื่อว่าคลิปที่ถูกปล่อยออกมาเป็นความพยายามจะปลุกกระแสการชุมนุมของคนเสื้อแดงอีกรอบ แต่ทั้งนี้มั่นใจว่าการสอบสวนทั้งหมดจะอยู่ที่ข้อเท็จจริง และเชื่อว่าศาลจะพิจารณาโดยไม่อยู่ภายใต้แรงกดดัน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การที่นายวิรัช ร่มเย็น หนึ่งในทีมกฎหมายของพรรคมีภาพไปปรากฎอยู่ในคลิปดังกล่าวนั้น คงต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่านายวิรัช จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งพรรคจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายละเอียดจากเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าว และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการตรวจสอบในรายละเอียดเรื่องนี้เช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงกระบวนการความถูกต้องตามหลักยุติธรรม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาอย่างเป็นอิสระ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ