นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะนำปัญหาน้ำท่วม ทั้งในพื้นที่ภาคอีสานและภาคกลางเข้าหารือในที่ประชุม ครม.วันอังคารที่ 26 ต.ค.53 เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยเฉพาะจะปรับลดเงื่อนไขต่างๆที่ยุ่งยากให้น้อยลงเพื่อจะได้นำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนได้ทันท่วงที และได้ให้จังหวัดชัยภูมิเร่งสำรวจแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวเอาไว้ เพื่อจะได้เสนอเพื่อของบประมาณดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผานมา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ออกเดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ชัยภูมิ และติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมทั้งมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยนายกฯและคณะเดินทางไปยังบ้านกุดละลม หมู่ 3,9,10 ที่มีประชาชนเดือดร้อน 1,119 หลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบ 100 % มาประมาณ 7 วันแล้ว โดยนายกฯมอบถุงยังชีพ และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป
จากนั้นเดินทางมาที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเอนกประสงค์ของเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อรับฟังปัญหาในภาพรวมของจังหวัด ซึ่งภาพรวมปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะปัญหาน้ำจากเขื่อนที่ทะลักเข้าท่วมเมือง แต่จะมีปัญหาอยู่เพียงน้ำจากแม่น้ำชีที่หนุนสูงและล้นตลิ่งขึ้นมาถึง 2 เมตร และได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน 36 หมู่บ้าน รวมพื้นที่การเกษตรเสียหายเบื้องต้นประมาณ 58,000 ไร่ แต่ความเสียหายภาพรวมยังสรุปไม่ได้ เนื่องจากยังมีถนนกว่า 30 สายน้ำยังท่วมสูง โดยน้ำชีที่หนุนเข้ามา ได้หนุนมาในพื้นที่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัวต้องเดือดร้อนและนอนกลางถนน ขาดรถสุขาเคลื่อนที่ และล่าสุดน้ำชีได้ไหลทะลักเข้าสู่เขตอ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และ จะไหลต่อเข้าเขตพื้นที่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น