คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า ตนยังไม่ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้งหรือไม่ เพราะยังเหลืออยู่อีก 1 ปีกว่า หากบ้านเมืองยังอยู่ในสภาพที่เดินไปข้างหน้าได้ยากลำบาก และสภาพการเมืองยังคงเป็นปัญหา เช่น ยังมีการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน หรือยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง อาจเลือกที่จะทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนผ่านมูลนิธิไทยพึ่งไทย ที่เป็นประธานอยู่ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดความแตกแยกกับพรรคเพื่อไทย แต่ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับพรรคเพราะถูกตัดสิทธิทางการเมือง จึงไม่สามารถเข้าร่วมกับพรรคได้
"มีคนพยายามสร้างข่าวตอนที่พี่ไปแจกของที่ต่างจังหวัด ว่าพี่จะตั้งพรรคใหม่ ไม่เป็นความจริงเลย เพราะเราเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อยู่ จะไปร่วมกับพรรคได้อย่างไร อย่าพูดให้เรื่องทำบุญกลายเป็นเรื่องบาปเลย" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถขนถุงยังชีพเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม บริเวณด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รู้สึกดีใจที่รัฐบาลตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือกับประชาชน แม้จะมีศูนย์ดังกล่าวแล้ว แต่การบริหารจัดการยังคงเป็นระบบราชการอยู่ จึงดูเหมือนรัฐบาลยังมีวิธีการบริหารสถานการณ์แบบปกติ ทั้งที่สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติแล้ว จึงขอฝากให้รัฐบาลกำชับให้ศูนย์ฯ ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนภัยกับประชาชนให้ทันท่วงที รวมถึงขอให้การกระจายความช่วยเหลือของรัฐบาลเป็นไปอย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยรัฐบาลอาจมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ หรือมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบดูแลจังหวัดที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม