นายเคิร์ท แคมป์เบล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีกำหนดเดินทางเยือนเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐโดยการนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้
นายแคมป์เบลกล่าวว่า การเยือนเอเชียครั้งนี้เป็นการเดินทางที่มีความซับซ้อนและกินเวลานาน และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลโอบามาให้ความสำคัญกับเอเชียในหลายประเด็นทั้งยุทธศาสตร์ การเมือง ความสัมพันธ์พหุภาคี เศรษฐกิจ และการค้า
นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งรัฐบาลโอบามาเมื่อเดือนมกราคมปี 2552 รัฐบาลสหรัฐก็พยายามสานสัมพันธ์กับเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐพยายามยกระดับความมีอิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากที่ประธานาธิบดีคนก่อนๆไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นายแคมป์เบลเผยว่านางคลินตันจะเยือนฮาวายเป็นที่แรก โดยจะพบกับผู้บัญชาการทหารของกองทัพสหรัฐประจำแปซิฟิก และจะพบกับนายเซจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาความมั่นคง รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า
จากนั้นนางคลินตันจะเดินทางไปยังกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
สหรัฐกำลังจะได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกในปีหน้า และประธานาธิบดีโอบามาประกาศว่าจะเข้าร่วมการประชุมปีหน้าซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
หลังเสร็จสิ้นการเยือนเวียดนามแล้ว นางคลินตันจะเดินทางต่อไปยังกัมพูชา มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
สำหรับตัวประธานาธิบดีโอบามาเองนั้น มีกำหนดเดินทางเยือนอินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นในเดือนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน