นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตรวจสอบการวิ่งเต้นคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้มีคลิปจำนวน 5 คลิปได้ถูกแผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ยูทูปมาเป็นหลักฐานตามข้อกล่าวหา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไป การจะสอบแต่เพียงที่มาของคลิปไม่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาในเรื่องนี้ทั้งหมด อีกทั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 197 บัญญัติให้ตุลาการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้เป็นไปโดยถูกต้อง ประกอบกับประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง จริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้อ 1 กำหนดให้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชนและความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร
ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงขอให้เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่งตั้งได้สอบเนื้อหา และตุลาการผู้ที่ได้ปรึกษาหารือเรื่องดังกล่าวในคลิป เพื่อให้ความกระจ่างกับสังคมและประชาชนที่สนใจติดตามเรื่องนี้ทราบต่อไป
ขณะที่นายเกียรติอุดม ในฐานะผู้ร้องร่วมกับนายทะเบียนพรรคการเมืองคดีนี้ ประกอบกับเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เห็นว่า“เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม" และ “เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ" เพราะเนื้อหาที่ปรากฎเป็นคำพูดในคลิปวีดีโอของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสาระสำคัญที่ควรต้องตรวจสอบว่าตุลาการฯผู้ใดเป็นผู้พูดหรืออภิปรายในเนื้อหาของคลิปวีดีโอด้วย
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย(ทรท.)โพสข้อความในทวิตเตอร์ว่า ปัญหาน้ำท่วมทำให้ประเด็นเรื่องของคลิปฉาวเงียบไป ซึ่งมีหลายฝ่ายพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ อย่างกรณีที่มีความพยายามชี้แจงประเด็นของนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นผู้ปล่อยบ้าง เรื่องการรับเด็กเข้าเป็นเลขาฯส่วนตัวบ้าง แต่ไม่ได้กล่าวถึงการหารือเพื่อช่วยคดียุบพรรค ปชป.
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ ยังเรียกร้องให้นำคลิปเหล่านั้นไปเปิดให้ผู้พิพากษาทั่วประเทศดูแล้วช่วยกันเสนอความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรปล่อยให้มีการปู้ยี่ปู้ยำกระบวนการยุติธรรมกันสนุกสนานตามอำเภอใจอย่างนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง