นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) พร้อมด้วยแกนนำ อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย และสมาชิกอีกว่าพันคนได้เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา แสดงจุดยืนการคัดค้านการพิจารณารับรองบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา 3 ฉบับ ที่วันนี้จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตรับรอง MOU 2543
หากที่ประชุมรัฐสภารับรองเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ของการเสียดินแดน เพราะจะถูกนำไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาต่อรอง ซึ่งหากที่ประชุมมีการรับรองในวันนี้ไปแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ จะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อเพื่อกดดันให้ยกเลิกการพิจารณารับรองบันทึกดังกล่าว
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้ารัฐสภา รถยังวิ่งสวนกันไปได้ แต่ค่อนข้างจะช้า เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมค่อนข้างมาก แม้ว่าจะมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่ฝั่งตรงข้ามของรัฐสภา แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนเดินข้ามมาอยู่ฝั่งทางด้านรัฐสภาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้ประกาศบนเวทีว่า การชุมนุมครั้งนี้แม้จะอยู่ภายใต้การประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าการชุมนุมดังกล่าวมีเหตุผลเพียงพอและไม่ถือว่าเป็นความผิด เพราะเป็นการชุมนุมคัดค้านการออกกฎหมายขายชาติ เนื่องจากการรับรองตามบันทึกผลการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ ถือเป็นความผิดมาตรา 119 เกี่ยวกับความมั่นคงต่อแผ่นดิน
นอกจากนี้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการประกาศใช้ไม่มีเหตุจำเป็นตามมาตรา 4 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และถือว่ารัฐบาลชุดนี้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยืดเยื้อยาวนานที่สุด
อย่างไรก็ดี แม้การชุมนุมครั้งนี้จะถูกขอร้องไม่ให้มีการใช้ลำโพงหรือเครื่องขยายเสียง แต่แกนนำฯ ได้เลี่ยงด้วยการใช้โทรโข่งไร้สายจำนวนหลายตัวไปติดตั้งกระจายอยู่แต่ละจุดทั่วบริเวณการชุมนุม
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ก่อนที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะเริ่มขึ้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานแกนนำฯ เพื่อแจ้งหลักปฏิบัติในการชุมนุมที่ห้ามปิดการจราจร และห้ามการใช้เครื่องขยายเสียงแล้ว แต่ทั้งนี้มีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การจราจรบริเวณหน้ารัฐสภาต้องไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการชุมนุมดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อ เพราะผู้ชุมนุมคงแค่รอฟังผลการลงมติจากรัฐสภาเท่านั้น และที่ผ่านมาแกนนำฯได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ส่วนการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้กำลังพลสำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมวันนี้จำนวน 5 กองร้อย และเตรียมสำรองไว้อีก 7 กองร้อยในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน