กลุ่มพันธมิตรฯ นัดกลับมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หลังจากสลายชุมนุมหน้าสภาฯ เมื่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้ มติตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา จำนวน 30 คน มาจากจาก ส.ส.23 คนและ ส.ว. 7คน เพื่อพิจารณารายละเอียดของบันทึกรายงานการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ภายใน 30 วัน โดยในวันนี้ยังไม่มีการลงมติในเรื่องนี้
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความสับสนในเรื่องของ MOU ปี 43 ที่ต้องยอมรับว่าทุกฝ่ายไม่ต้องการให้ไทยสูญเสียดินแดน โดยเห็นว่าควรมาหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวในชั้นของการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาขึ้นมาพิจารณา
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนที่ยังมีความกังวลเรื่องดังกล่าว รัฐบาลได้พิจารณาและเห็นควรให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วมรัฐสภา 30 คน มีสัดส่วนจากวุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาศึกษาประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน ทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งประเทศให้เกิดความเข้าใจร่วมกันใช้เวลาพิจารณา 30 วัน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งที่ 6 ด้วยคะแนนเสียง 260 ต่อ10 เสียง งดออกเสียง 57 เสียง ไม่ลงคะแนน 21 เสียง ก่อนที่นายชัย ชิดชอบประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้สั่งปิดการประชุม
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศสลายการชุมนุมเมื่อเวลา 14.00 น. โดยระบุว่า การชุมนุมคัดค้านในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่ทำให้ยังไม่มีการลงมติของสมาชิกรัฐสภารับรองบันทึก JBC แต่ปัญหาดังกล่าวยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไป จึงขอนัดชุมนุมเพื่อคัดค้านอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 10.00 น.
"การมาชุมนุมครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่ทำให้ยังไม่มีการลงมติ ที่ประชุมต้องตั้งกรรมาธิการร่วมเพื่อยืดเวลาออกไป แต่เชื่อว่ามันเป็นกลลวงที่มีการตั้งธงไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวต่อไป
ถ้าเราชุมนุมต่อก็เป็นการจั่วลม เรากลับไปพักผ่อนแล้วมาใหม่ในวันที่ 11 ธ.ค. ตอน 10 โมงเช้าเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในการคัดค้านครั้งที่ 10 อย่างแน่นอกน หากรัฐบาลไม่ยอมยกเลิกตามข้อเรียกร้อง ผู้ชุมนุมก็จะไม่ยอมไม่กลับบ้าน"พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในอดีตการนำมวลชนออกมาต่อต้าน 9 ครั้งประสบความสำเร็จมาตลอด นับตั้งแต่การเสนอกฎหมายทำแท้ง จนกระทั่งมาถึงการไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไล่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนมาถึงมรดกโลก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯ มาชุมนุมเรียกร้องหน้ารัฐสภา ทำให้กระบวนการการเดินหน้าตามกรอบ JBC อาจจะต้องล่าช้าลงไป แต่รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าต่อในเรื่องนี้ และที่ผ่านมาก็ได้ทำความเข้าใจกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแล้วว่าเรื่องนี้เป็นกระบวนการภายในของไทย ซึ่งสมเด็จฮุนเซนก็เข้าใจเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าคณะกรรมาธิการร่วมที่จะตั้งขึ้นมา จะต้องเดินหน้าทำงานด้วยความถูกต้อง เพราะหากจะไปแก้ไขอะไรแล้วประชาชนไม่ยอมรับก็คงทำไม่สำเร็จ