นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความพ่ายแพ้ในการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐของพรรคเดโมแครตนั้น จะส่งผลกระทบต่อโอกาสของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐในการลงรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในปี 2555
การเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งเปิดฉากขึ้นในช่วงที่โอบามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐมาได้ครึ่งเทอม จากวาระการดำรงตำแหน่งทั้งหมด 4 ปีนั้น ถูกมองว่า เป็นคำตัดสินของประชาชนที่มีต่อผลการดำเนินงานในช่วง 2 ปีนับตั้งแต่ที่โอบามาเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. 2552
แม้ว่า โอบามาจะมีคะแนนนิยมถึงเกือบ 70% ในช่วงที่รับตำแหน่งผู้นำประเทศได้ไม่นานนัก แต่คะแนนนิยมของเขาก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% เมื่อเร็วๆนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จอห์น โบห์เนอร์ แกนนำของพรรครีพับลิกันจากรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า พรรครีพับลิกันจะผลักดันเรื่องการลดงบประมาณการใช้จ่ายและลดขนาดของรัฐบาล พร้อมกับชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ชาวอเมริกันได้ส่งสัญญาณที่ไม่ผิดพลาดไปยังโอบามาแล้ว และหวังว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะเคารพในความคิดของประชาชน เปลี่ยนแปลงแนวทางและทำงานเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันสามารถกวาดคะแนนแซงหน้าพรรคเดโมแครตขึ้นครองเสียงข้างมากได้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ ขณะที่พรรคเดโมแครตเองก็สามารถรั้งฐานเสียงข้างมากของพรรคในวุฒิสภาได้เช่นกันในศึกเลือกตั้งสภาคองเกรสที่จัดขึ้นในวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา