นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยภายหลังนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ เข้าพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ว่า เป็นการมารับทราบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ยังยืนยันให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก(MOU 43)
รวมไปถึงการคัดค้านบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(เจบีซี) ทั้ง 3 ฉบับ ที่มีคำปราศรัยใส่ร้ายประเทศไทยของนายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา และกรณีที่จะมีการปักเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพันธมิตรฯ เห็นว่าไม่สมควรปักในช่วงระหว่างบริเวณช่องสะงำจนถึงช่องบก เนื่องจากได้มีการตกลงเขตแดนที่ชัดเจนในอนุสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสเอาไว้แล้ว
นายปานเทพ แสดงความเป็นห่วงตัวแทนการเจรจาคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา ที่จะต้องมีความชัดเจน รัดกุม และรอบคอบกว่านายวศิน ธีรเวชญาณ ประธานเจบีซีฝ่ายไทย แต่ทางรัฐบาลเองก็ไม่ควรให้กรอบการประชุมกว้างเกินไปทั้งในส่วนของสันปันน้ำและแผนที่ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก ขณะที่การประชุมมรดกโลกที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้นรัฐบาลเองยังไม่ได้มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน
ทั้งนี้นายชวนนท์ ได้รับฟังข้อเสนอดังกล่าว พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเห็นพ้องในบางเรื่อง แต่นายชวนนท์ ระบุว่าไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
นายปานเทพ เชื่อว่า นายชวนนท์ จะนำข้อมูลดังกล่าวไปเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศให้รับทราบ ซึ่งหากรัฐบาลเปลี่ยนแปลงท่าทีในเรื่องดังกล่าว แกนนำพันธมิตรฯ ก็พร้อมจะทบทวนการชุมนุมในวันที่ 11 ธ.ค.นี้