รายงานข่าว ระบุว่า ในการประชุมวุฒิสภาที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุมได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 25 คน เพื่อตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เนื่องจากกรรมการกทช.พ้นจากตำแหน่งตามวาระ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหา กทช. ได้เสนอรายชื่อเป็นกรรมการกทช.จำนวนรวม 6 คน ประกอบด้วย 1.นายชัชชลิต สรวารี ผู้เชี่ยวชาญสาขาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง 2.นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กฎหมายมหาชน 3.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ กิจการโทรคมนาคม 4.นายประเสริฐ อภิปุญญา ผู้เชี่ยวชาญกิจการโทรคมนาคม 5.พล.อ.ชิตศักดิ์ ประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและ 6.นางนรีวรรณ จินตกานนท์ เก่งเรียน ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา เพื่อให้วุฒิสภาเลือกให้เหลือจำนวน 3 คน
นอกจากนี้ที่ประชุมวุฒิสภายังได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ฉบับที่...)พ.ศ....ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้วด้วยคะแนน 116 ไม่เห็นด้วย 1 งดออกเสียง 8 คะแนน โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมี สาระสำคัญ คือ การเพิ่มอำนาจให้ ป.ป.ช.ฟ้องคดีเอง
ส่วนการจับกุมคุมขังบุคคล คณะกรรมการป.ป.ช.หรือผู้ได้รับมอบหมายอาจร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจหรือ พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานอื่นหรือแจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงาน สอบสวนหรือเจ้าพนักงานอื่นดำเนินการก็ได้ โดยการจับ คุมขังและปล่อยตัวชั่วคราวสำหรับการให้ได้ผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้องมาใช้โดยอนุโลมต่อไป อ
ย่างไรก็ตาม จากนี้ประธานรัฐสภาก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่ามีเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป