นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่(กมม.) ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกรัฐสภา เรื่อง หยุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อซ้ำเติมวิกฤติชาติ ทั้งนี้เนื่องจากพรรคการเมืองใหม่ได้ติดตามและร่วมคัดค้านความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทิศทางที่ไม่ถูกต้องกับภาคส่วนต่างๆ มาโดยลำดับ จึงขอยืนยันในหลักการของพรรค ดังนี้
รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ แต่ในฐานะที่เป็นกฎหมายสูงสุดและรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 มาจากการลงประชามติของประชาชน 25 ล้านคน ดังนั้นก่อนการแก้ไขควรรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวางด้วยการออกเสียงประชามติ การอ้างว่ารัฐบาลเสนอแก้เพียง 2 ประเด็นไม่กระทบในวงกว้างเป็นเพียงดุลยพินิจส่วนตัว และเป็นดุลยพินิจที่ไม่เคารพหลักการประชาธิปไตย เป็นการสร้างแบบอย่างที่ไม่ถูกต้อง และถือว่าย่ำยีความสำคัญของกฎหมายสูงสุดโดยไม่รู้ตัว
ขณะเดียวกันการเสนอแก้ไข 2 ประเด็นหรือ 2 ร่างของรัฐบาลยังทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่เสนอโดยคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ถูกนำขึ้นมาพิจารณาด้วย ทั้งๆ ที่ยังมีปัญหาข้อถกเถียงหรือข้อกฎหมายว่าเป็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายเกินกรอบหมวด 3 และหมวด 5 หรือไม่
อีกทั้งเนื้อหาของร่างแก้ไขฉบับ คปพร.นี้สุดท้ายคือการล้มรัฐธรรมนูญปี 50 เกือบทั้งฉบับแล้วนำรัฐธรรมนูญปี 40 ขึ้นมาบังคับใช้แทน ซึ่งเป็นเนื้อหาหรือความพยายามเดียวกันกับฝ่ายการเมืองเมื่อปี 51 ที่ทำให้ประชาชนออกมาคัดค้านต่อสู้จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายมาแล้ว
การแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นของรัฐบาลไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความเป็นประชาธิปไตย ตรงข้ามยิ่งทำให้ประชาชนมองเห็นว่าเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของพรรคและนักการเมืองเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องวิธีการเลือกตั้ง ส.ส.หรือการที่รัฐบาลอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรองดองนั้น แท้จริงแล้วเป็นการซ้ำเติมวิกฤติความแตกแยกของคนในชาติที่เริ่มมีสัญญาณในด้านดีอยู่บ้างให้กลับไปสู่จุดแตกแยกเดิม
พรรคการเมืองใหม่เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง ต้องมองจากภาพรวมทั้งหมด รัฐบาลควรจะผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปฯ ดังกล่าวที่มีคณะกรรมการ 2 ชุด(ชุด นพ.ประเวศ วะสี และชุดนายอานันท์ ปันยารชุน) กำลังทำงานอยู่ และก่อนการเสนอแก้ไขครั้งใหญ่ก็ต้องทำประชามติสร้างการเรียนรู้ทางประชาธิปไตยครั้งสำคัญให้กับประชาชนอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ต้องมาอ้างว่าเกรงจะสูญเสียงบประมาณ
"ถึงแม้พรรคการเมืองใหม่จะไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. แต่เราก็ไม่เห็นด้วยประการทั้งปวงที่จะให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเพียงการเล่นเกม หรือหมากทางการเมืองดังที่มีคนบางกลุ่มพยายามโฆษณาว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการตอกฝาโลงไม่ให้ร่างฉบับ คปพร.ได้เกิด การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นการใช้ปัญญายกระดับประชาธิปไตย เปิดพื้นที่ให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสหรือไม่มีพื้นที่ทางการเมืองได้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นกว่าเดิม"