นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะตัดสินใจยุบสภาในเดือน ม.ค., ก.พ. หรือ มี.ค.54 ว่า"ก็เป็นไปได้ ต้นปีหน้าผมก็เคยพูดหลายครั้งแล้ว"
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความกังวลใจต่อการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จะเกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือมีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่หากตนเองต้องลงพื้นที่ไปช่วยลูกพรรคหาเสียง
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้มีการยุบสภาหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะรัฐมนตรีไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภานั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ทราบเหตุผลของนายสนธิ แต่ในหลักการรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ในรัฐสภา จึงไม่สามารถที่จะควบคุมเสียงในรัฐสภาได้ แต่พร้อมที่จะรับผิดชอบ โดยจะขอพิจารณาจากผลการลงมติในภาพรวมว่ารัฐบาลสามารถคุมเสียงข้างมากได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะไม่ทำให้เป็นปมปัญหาอีกต่อไป และเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะช่วยลดปัญหาการบริหารงาน ปัญหาพรรคร่วมรัฐบาล และการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า หากการลงมติของรัฐสภาไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร. ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านควรที่จะพอใจ เพราะเป็นเรื่องที่กลุ่มพันธมิตรฯ กังวลมาโดยตลอด แต่ถ้าหากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ยอมรับก็พร้อมทำความเข้าใจ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นการทำตามหรือเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็ยอมรับว่าในตอนที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเคยได้พูดคุยกับทางพรรคร่วมรัฐบาลถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นตรงกันว่าจะไม่มีการแก้ไขเรื่องการนิรโทษกรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังมีบางประเด็นที่อาจจะไม่ถูกใจตนเอง แต่เมื่อรัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ รัฐบาลก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามเพราะไม่เช่นนั้นในอนาคตการทำงานร่วมกับคณะกรรมการชุดต่างๆ จะยากขึ้น และไม่ได้รู้สึกกังวลว่าคะแนนความนิยมของพรรคจะลดลง เพราะการทำงานเรื่องนี้ถือเป็นความรับผิดชอบในภาพรวม