นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติเนื่องจากเป็นคู่กรณีกับผู้ร้อง โดยมารยาทคงต้องถอนตัว ส่วนจะมีผลต่อการพิจารณาคดียุบพรรคหรือไม่ ยังไม่มีใครตอบได้ ขึ้นอยู่การตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อข้อถามว่าองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พิจารณาคดีนี้เหลือเพียง 6 คน หากผลการตัดสินออกมาเท่ากันจะทำอย่างไร และจะต้องยกคำร้องหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูที่กฎหมายว่าระบุไว้อย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ถอนตัวไปเป็นปฏิปักษ์กับผู้ร้อง อย่างไรก็ตามหากคดีสิ้นสุด ตนก็มีหน้าที่จะพูดกับสมาชิกพรรค แต่ยังไม่ทราบว่าศาลจะตัดสินคดีวันไหน แต่ได้เตรียมความพร้อมไว้ เนื่องจากในอดีตเคยมีการตัดสินคดีทันทีหลังจากที่แถลงปิดคดี
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวที่จะให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่อง ซึ่งนายสุเทพ อาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองด้วยก็ได้ ต้องดูว่าหากศาลพิจารณายุบพรรค ใครจะถูกตัดสิทธิบ้าง เนื่องจากนายสุเทพ อยู่ในกรรมการบริหารพรรคชุดที่ถูกเสนอให้ตัดสิทธิทางการเมือง ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นเรื่องของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะคัดเลือก อย่างไรก็ตามในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่ตนเชื่อว่าหากมีอะไรเกิดขึ้น สมาชิกพรรคจะรวมตัวกันเพื่อกำหนดทิศทาง
ส่วนการเตรียมแผนรับมือการชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นหรือไม่ หากศาลตัดสินไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ศาลอธิบายเหตุผลให้ละเอียดถึงคำวินิจฉัย ที่ผ่านมาศาลตัดสินในคดีที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ก็ได้เขียนคำวินิจฉัย โดยนำเหตุผลและข้อเท็จจริงมาอธิบาย ซึ่งสามารถช่วยได้ ส่วนคนที่ไม่พอใจยอมรับว่าต้องมี ไม่ว่าศาลจะตัดสินใจออกมาทางใดทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่ดูแลการชุมนุมอยู่แล้ว ทั้งกลุ่มสนับสนุนและเคลื่อนไหวคัดค้าน แต่ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบ่งบอกว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวตั้งพรรคไทยเข้มแข็ง ไว้รองรับหากถูกยุบพรรคว่า ไม่ทราบเรื่อง โดยแนวปฏิบัติแล้ว หากพรรคถูกยุบ ส.ส.ต้องหาพรรคสังกัด ซึ่งคงไม่ยาก ต่อข้อถามว่าหากถูกยุบพรรคต้องเว้นวรรคทางการเมือง จะไปทำอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง