อัยการเจ้าของคดีแถลงปิดคดีด้วยวาจาเช้านี้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงชี้แจงประเด็นความผิดอันเป็นเหตุให้ส่งฟ้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ห้ามจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือเป็นผู้บริหารพรรคการเมืองใหม่ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
นายกิตตินันท์ ธัชประมุข อัยการคดีพิเศษ ฝ่ายสำนักคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ร้องในคดีที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์ โดยให้เป็นผู้ทำหน้าที่แถลงปิดคดีด้วยวาจาแทน
ทั้งนี้ อัยการฝ่ายผู้ร้องยืนยันว่า การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ อัยการผู้ร้องได้ดำเนินการตามหน้าที่โดยละเอียดรอบคอบ และเป็นไปตามข้อเท้จจริงและข้อกฎหมาย ไม่มีอคติ ไม่ถูกกดดันหรือไม่ได้ทำด้วยความหวาดกลัวภายใต้อิทธิพลจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อีกทั้งยังมีการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้แสดงหลักฐานอย่างเต็มที่
โดยได้ชี้แจงตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ทั้ง 5 ประเด็น อีกทั้งการสอบสวนยังชอบด้วยกฎหมายและไม่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อีกทั้งยังดำเนินการอย่างมีหลักฐานชัดเจนว่าพรรคผู้ถูกร้องทำผิดวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง เนื่องจากมีการดำเนินการไปก่อนที่จะได้รับอนุมัติ ขณะที่กฎหมายกำหนดว่าการใช้เงินต้องเป็นไปตามปีปฏิทิน แต่ปรากฎว่ามีการสร้างพยานหลักฐานเท็จในภายหลังที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ดังนั้น จึงมีความเห็นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคที่ถูกร้อง และมีคำสั่งให้ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องให้ยุบพรรค ไม่สามารถดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือเข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแก่กรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ด้วยเช่นกัน