ศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 13 คน ในข้อหาละเมิดกรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมบุกสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองเมื่อเดือน พ.ย.51 เรียกค่าเสียหายจำนวน 254 ล้านบาทเศษ โดยมีคำสั่งให้คู่ความยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 60 วัน และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 มี.ค.54 เวลา 10.00 น.
โดยวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลยปากสุดท้าย ซึ่งสรุปได้ว่า ก่อนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปที่สนามบินทั้สองแห่ง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนได้มีการหารือและถกเถียงกัน จนในที่สุด พล.ต.จำลอง ซึ่งเป็นผู้อาวุโสสุดเป็นผู้ตัดสินใจพากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่สนามบินทั้ง 2 แห่ง เพื่อเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น และทวงถามความคืบหน้าคดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย
นายสนธิ กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ เห็นตรงกันว่าการเข้าไปชุมนุมที่สนามบินทั้ง 2 แห่งไม่ได้สร้างเสียหายให้กับธุรกิจการบินทั้งในและนอกประเทศ เพราะไม่ได้เป็นการปิดสนามบิน โดยเครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ เพราะผู้ชุมนุมรวมตัวกันอยู่บริเวณแลนด์ไซด์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของเครื่องบิน และได้กำชับไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่บริเวณแอร์ไซด์
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังเปิดให้บุคคลทั่วไปเดินทางเข้าออกพื้นที่สนามบินทั้ง 2 แห่งได้โดยสะดวก อีกทั้งยังช่วยเจรจาให้ชาวมุสลิมได้เดินทางไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียด้วย
นายสนธิ เบิกความว่า นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เป็นผู้สั่งการ แต่คำสั่งของนายเสรีรัตน์จะเป็นไปตามอนุสัญญาการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าคณะกรรมการ ทอท.ได้ตำหนินายเสรีรัตน์ที่สั่งปิดสนามบิน โดยไม่ได้บอกกล่าวให้ทราบล่วงหน้า
ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ไม่มีความเสียหายที่เป็นรูปธรรมถึงขั้นต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซม ซึ่งมีเพียงห้องน้ำเท่านั้นที่มีความสกปรก ซึ่งในการส่งมอบพื้นที่คืนให้กับคณะกรรมการ ทอท.ก็ได้รับคำยืนยันว่าสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
หลังเบิกความเสร็จ นายสนธิ ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อคัดค้านการพิจารณาลงมติบันทึกกรอบการเจรจาคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(เจบีซี) ทั้ง 3 ฉบับ ในวันที่ 11 ธ.ค.ว่า เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป หลังรัฐบาลแก้เกมด้วยการเลื่อนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ออกไป แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะนัดหารือเพื่อกำหนดท่าทีที่ชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 3 ธ.ค.นี้