นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เผยเตรียมประกาศนโยบายลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคมภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชนมีหลักประกันความมั่นคง ทั้งการแก้ปัญหาหนี้สินในระบบ โดยจัดการปัญหาแบบบูรณาการไม่ให้ปัญหาหนี้ที่แก้ไขไปแล้วหวนกลับสู่วงจรหนี้นอกระบบอีกครั้ง การขยายโครงสร้างความมั่นคง และลดภาระ โดยมาตรการลดค่าครองชีพที่จะหมดในช่วงสิ้นปีนี้จะขยายเวลาออกไป แต่จะเปลี่ยนจากการอุดหนุนอย่างเดียวมาเป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น ไก่ ไข่ หมู ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลดการผูกขาดที่ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูง โดยการสนับสนุนวัตถุดิบ เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าบิดเบือน เกิดกลไกการตลาดที่แข่งขันกันได้ นอกจากนี้ยังมีแนวทางลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ขยายมาตรการลดค่าไฟในครอบครัวที่ใช้ต่ำอย่างถาวร การแก้ไขโครงสร้างก๊าซที่ผลิตภายในประเทศให้มีราคาต่ำลง
โฆษกพรรค ปชป.ปฏิเสธว่า นโยบายดังกล่าวไม่ใช่การหาเสียงตามที่มีหลายฝ่ายโจมตี เพราะนโยบายรับบาลกำลังผลักดัน บางนโยบายไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้อำนาจรัฐเข้าไปแก้ปัญหากลุ่มอาชีพที่เดิมถูกอำนาจรัฐเอาเปรียบ เช่น กลุ่มขับรถรับจ้างและมอเตอร์ไซค์ หรือขยายฐานจากที่มีอยู่เดิม เช่น การประกันสังคม โดยจะให้ครอบคลุมมากขึ้น และการให้มีกองทุนเงินออม
นอกจากนี้ในเชิงโครงสร้าง ร่างกฎหมายภาษีทรัพย์สินที่ดินก็ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งหากผ่านสภาฯ จนประกาศใช้ก็จะทำให้มีการแบ่งเงินคนมีที่มากมาให้คนที่มีน้อยกว่า ถือเป็นระบบสวัสดิการที่เฉลี่ยทุกข์สุข ร่วมกันสมทบเพื่อช่วยเหลือกันในสังคม ขอยืนยันการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการหาเสียง เพราะไม่มีใครทราบว่า จะมีการเลือกตั้งเมื่อใด
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมออกหนังสือ "ทุจริตอภิสิทธิ์ชนในรอบ 2 ปี" มีเนื้อหาระบุว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จับต้องเป็นรูปธรรมได้นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคยินดีที่จะให้ตรวจสอบ และจะให้ข้อมูลเปรียบเทียบ แต่ถ้าพรรคเห็นว่า เป็นการใช้ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายกล่าวหา พรรคจะใช้สิทธิ์ฟ้องร้อง ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยควรแข่งกันเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และเสนอตัวผู้นำฝ่ายค้านที่ชัดเจน
โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคเตรียมเผยแพร่เอกสารผลงานครบรอบ 2 ปี รัฐบาล และจะทำวิดีโอชื่อ วาระประชาชน บทที่ 2 ออกสื่อทุกแขนง ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เห็นว่าพรรคมีนโยบายที่ทำเสร็จสิ้น 3 เรื่องคือ เรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเช็คช่วยชาติ และที่จะทำหรือกำลังทำอยู่อีก 7 เรื่อง คือ การประกันรายได้ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำผู้ใช้แรงงาน การแก้หนี้ครบวงจร กองทุนเงินออมแห่งชาติ บ้านมั่นคง โฉนดชุมชน และการวางโครงสร้างเศรษฐกิจมหภาคอย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรม