นายกรัฐมนตรีระบุกรณีที่ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ลงมติเลือกแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนอิเลคทรอนิกส์(สมารืทการ์ด) เพื่อหาทางออกที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว โดยไม่ได้ต้องการที่จะหักหน้านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ซึ่งหลังจากพิจารณาเสร็จแล้วทาง รมว.มหาดไทย ก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี
"เวลามีความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องหาข้อยุติ การลงมติก็เป็นเรื่องธรรมดาเพื่อให้ทุกคนสบายใจ และทางรัฐมนตรี(มหาดไทย)เองก็มีความเข้าใจเรื่องนี้" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ที่ประชุม ครม.วันนี้มีมติให้กระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรองรับรูปแบบบัตรสมาร์ทการ์ด ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ผลิตออกมาแล้วจำนวน 26 ล้านใบ เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถมีบัตรสมาร์ทการ์ดไว้ใช้ในเดือน ม.ค.54 โดยทางกระทรวงเทคโยโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เสนอทางเลือก 2 แนวทางให้พิจารณา คือ การแก้ไขสัญญากับบริษัทเอกชน กับการให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎกระทรวงฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับทราบมาโดยตลอดว่ามีปัยหาเรื่องการตีความข้อกฎหมาย แต่สิ่งที่ ครม.มีมติวันนี้ไม่ได้มุ่งทำเพื่อประโยชน์ให้กับใคร แต่ต้องการให้ประชาชนมีบัตรสมาร์ทการ์ดไว้ใช้เร็วขึ้น อีกทั้รัฐบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก ซึ่งบัตรสมาร์ทการ์ดที่ผลิตมาแล้วมีความปลอดภัยมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ และบริษัทเอกชนก็ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลด้วย
ส่วนกรณีที่สั่งการให้ทบทวนเรื่องการปรับขึ้นค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) นั้น เนื่องจากเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นค่าตอบแทนให้กับบุคลากรภาครัฐในส่วนอื่นๆ และผลกระทบต่องบประมาณ ดังนั้นจึงขอให้ รมว.มหาดไทย ไปพิจารณาในรายละเอียดแล้วนำกลับมาเสนอที่ประชุม ครม.ในอีก 2 สัปดาห์