นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) มองว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทนั้น ไม่อยู่เหนือความคาดหมายของทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะฟาวล์ 2 ครั้ง น่าเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีโอกาสพิสูจน์ว่ามีการไซฟ่อนเงินจริงหรือไม่ ดังนั้นข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จึงยังเป็นที่กังขาของสังคม
"ขอแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่รอดคดียุบพรรค 2 ครั้งติดต่อกัน ถือเป็นพรรคการเมืองในประวัติศาสตร์ที่โชคดีที่สุดในประเทศไทย"นายพร้อมพงศ์ กล่าว พร้อมระบุว่าพรุ่งนี้จะส่งเส้นขนมจีน 1 เข่งไปให้พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนน้ำยาให้ไปทำเอง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยตั้งขอสังเกตว่าตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ไม่ได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่าการทำความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองจะมีรูปแบบอย่างไร ดังนั้น เรื่องนี้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องชี้แจงว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องหรือผิดพลาดตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก่อนที่จะกลายเป็นแพะของสังคม
ส่วนอัยการสูงสุดที่เคยยืนยันว่าคำร้องในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทจะไม่เหมือนกับคดีเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแบบนี้ อัยการสูงสุดจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อได้พิจารณาว่าพรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่
"พรรคประชาธิปัตย์ชนะฟาวล์ 2 ครั้ง ทำให้ประชาชนไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง แต่ชนะด้วยเทคนิคทางกฎหมาย แล้วทำไมคดีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่ตกเก้าอี้จากคดีทำกับข้าวออกรายการโทรทัศน์ ศาลรัฐธรรมนูญต้องเปิดพจนานุกรรมตัดสิน แต่กรณียุบพรรคประชาธิปัตย์มีข้อกล่าวหาทำผิดกฎหมาย แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับไม่วินิจฉัยในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะรอคำวินิจฉัยกลางและบุคคลทั้ง 2 คดี เพื่อจัดทำสมุดปกขาวแจกประชาชนให้ได้อ่านข้อเท็จจริง เพื่อพิพากษาเรื่องนี้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร