นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เรียกร้องไปยังนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ว่าอย่านำข้อมูลในชั้นสืบสวนสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไปเผยแพร่ให้สื่อต่างประเทศ เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวของนายจตุพร นั้น DSI ได้ตรวจสอบไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และได้รับการยืนยันมาแล้วว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับสำนวนสืบสวนสอบสวนของ DSI ดังนั้นเมื่อไม่ใช่ข้อมูลเดียวกัน จึงไม่ถือว่าข้อมูลดังกล่าวรั่วไหล
นอกจากนี้การเสียชีวิต 89 ศพ จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น กำลังอยู่ระหว่างชั้นสืบสวนสอบสวน ยังไม่มีข้อยุติ จึงขอเรียกร้องนายจตุพร อย่าได้นำผลที่ยังไม่มีข้อยุติไปชี้ถูกชี้ผิดเพราะจะทำให้เกิดความสับสน ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาถือว่ามีความร้ายแรงเนื่องจากมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์ยุติลงจึงต้องเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ความจริง หากผลการสอบสวนยังไม่ยุติและถูกนำมาเปิดเผยชี้ถูกชี้ผิด ถือเป็นการตัดตอนกระบวนการยุติธรรม
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทูตของญี่ปุ่นได้เข้าพบและรับฟังการชี้แจงการสอบสวนทุกขั้นตอนของ DSI มากกว่า 5 ครั้ง ซึ่งมีรายละเอียดทั้งเรื่องพยานและวิธีการพิสูจน์มากกว่าที่ นายจตุพร นำมาเสนอเป็นจำนวนมาก และทุกครั้งเจ้าหน้าที่ทูตญี่ปุ่นก็พอใจมากกับการสอบสวนของ DSI
อนึ่ง วันนี้กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมด้วยคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปที่สถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหลักฐานกรณีการเสียชีวิตของนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตในช่วงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในระหว่างการสลายการชุมนุมในเดือนเม.ย.ที่แยกคอกวัว
โดยได้มอบเอกสารหลักฐาน 4 ชิ้นให้ไว้แก่ทางสถานทูตญี่ปุ่น ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุลจริงของพยานในเหตุการณ์ 4 คน ที่ให้การตรงกัน, วิดีโอสัมภาษณ์พยานภาพถ่ายในซีดีที่เห็นชัดเจน ฃว่าใครเป็นผู้สังหาร, คลิปวิดีโอที่ถ่ายระยะใกล้ และหนังสือที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อชี้ให้เห็นถึงการสอบสวนว่ารัฐบาลมีความพยายามถ่วงเวลามาโดยตลอด