ป.ป.ช.แจงคดีทุจริตโครงการคลองด่านยังไม่ขาดอายุความ,คาดชี้มูลต้นปี 54

ข่าวการเมือง Wednesday December 15, 2010 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้แจงคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ(คลองด่าน) จังหวัดสมุทรปราการ ยังไม่ขาดอายุความตามที่ผู้แทนเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(ส.ท.ช.) ได้ยื่นหนังสือแสดงความกังวลดังกล่าวต่อนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะสามารถพิจารณาชี้มูลคดีได้ในช่วงต้นปี 54

สำหรับเรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการดังกล่าวมี 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกเป็นการกล่าวหานายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย กับพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการรวบรวมที่ดินในเขตท้องที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขายให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อนำมาใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว โดยมีมติชี้มูลความผิดทางอาญานายวัฒนา และได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึงต่อมามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายวัฒนาเป็นเวลา 10 ปี แต่นายวัฒนาได้หลบหนี ศาลฎีกาฯ จึงได้ออกหมายจับนายวัฒนาเพื่อนำตัวมารับโทษในคดีดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมตัวได้

อีกเรื่องเป็นการกล่าวหานายวัฒนา เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และเอกชนหลายราย ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ในการดำเนินการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ(คลองด่าน) จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ ศาสตราจารย์ เมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.เป็นอนุกรรมการ

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งอนุกรรมการจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นพนักงานอัยการจำนวน 2 คน ผู้ทรงคุณวุฒิจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แห่งละ 1 ท่าน ซึ่งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้มีการดำเนินการไต่สวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วประมาณ 130 ราย รวมทั้งได้รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีจำนวนมากกว่า 30,000 แผ่น ซึ่งปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนจำนวนหลายรายมีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการโดยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องดังกล่าวได้รับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำสืบแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาวินิจฉัยได้ภายในช่วงต้นปี 54


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ