นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยจะมีการนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชการอาณาจักร มาบังคับใช้แทน แม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการประกาศยกระดับการชุมนุมหลังปีใหม่ และเรียกร้องให้มีการประกันตัวผู้ที่ถุกจับกุม
"สิ่งสำคัญการพิจารณา พ.ร.ก.และการประกันตัว ต้องดูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในชั้นนี้หน่วยงานยืนยันว่าจะเดินหน้าการยกเลิก พ.ร.ก.และเอาแผนความมั่นคงมาใช้ ส่วนเรื่องการประกันตัวจะเริ่มต้นจากกลุ่มบุคคลที่มีโทษเบาก่อน"นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี เตือนว่า หากใครได้รับการประกันตัว แต่ออกมาเคลื่อนไหวจนนำไปสู่ความวุ่นวายจนเกิดปัญหา และกระทบทำให้คนอื่นได้ประกันตัวยากขึ้น สำหรับแกนนำนั้นคงไม่ใช่เป็นกลุ่มแรก แต่ควรจะให้สิทธิผู้ที่มีโทษน้อยได้รับประกันก่อน
ส่วนกรณีการประกาศการชุมนุมในทุกจังหวัดและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำในระดับจังหวัดนั้นจะถือเป็นการปลุกระดมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งการพิจารณาการประกันตัวไม่ได้แยกเป็นรายจังหวัด แต่จะดูข้อเท็จจริงและโทษที่ได้รับ หากมีเหตุผลเพียงพอก็สามารถประกันตัวได้
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังการยกเบลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า ได้เตรียมไว้แล้วและจะพยายามใช้กฎหมายปกติ และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาดูแล โดยไม่ต้องมาแบ่งงานกันใหม่ เพราะมีกฎหมายกำหนดหน้าที่รับผิดชอบในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อยู่แล้ว
"เรื่องการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังคงเดินหน้ายกเลิกตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีแน่นอน แม้ว่าคนเสื้อแดงจะมีการประกาศยกระดับการชุมนุมกันทุกวันที่ 10 และ 19 ของทุกเดือน"นายสุเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ก็ต้องทำงานหนักหน่อย น่าเห็นใจเพราะแทนที่จะได้มีเวลาไปทำงานเรื่องอื่นเต็มที่ก็ต้องแบ่งกำลังมาคอยดูแลเรื่องนี้ ซึ่งหากทางฝ่ายผู้ชุมนุมไม่ฝ่าฝืนหรือทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ภาระของตำรวจก็จะไม่หนักเกินไป
พร้อมระบุว่า รัฐบาลยืนยันว่าไม่เคยมีแนวความคิดที่จะนิรโทษกรรมให้นักโทษเสื้อแดงหรือผู้เกี่ยวข้องกับคดีคนเสื้อแดงเลย