ปชป.ชี้ พท.เร่งออกนโยบายใหม่ขาดรูปธรรมชัดเจน-ไร้ผู้นำขับเคลื่อน

ข่าวการเมือง Wednesday December 22, 2010 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยได้มีการประกาศชุดนโยบายใหม่ขึ้นว่า หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ยังขาดรูปธรรมในทางปฏิบัติ และความชัดเจนในหลาย ๆ เรื่อง ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาหนี้สินที่มีการประกาศว่าจะมีการพักหนี้ตามมูลรวมต่าง ๆ 2-5 ปีนั้น แตกต่างจากนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ในและนอกระบบของรัฐบาลที่จะไม่ให้ความสำคัญแต่เพียงการพักหนี้ เพราะการพักหนี้นั้นจะทำให้เงินต้นและมูลหนี้นั้น ยังคงอยู่เท่าเดิม

ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ ลดหนี้ และนำไปสู่การปลดหนี้ และการวางมาตรการและภูมิคุ้มกันไม่ให้ประชาชนไทยกลับสู่วงจรหนี้นอกระบบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนโยบายนี้ก็ถือว่าเป็นความแตกต่างที่สามารถเปรียบเทียบได้

"เป็นความตั้งใจในการเร่งออกนโยบายให้ทันตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการ ทั้งในส่วนของการแสดงความสำเร็จของการดำเนินการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงนโยบายใหม่ที่จะมีการประกาศในช่วงต้นปีหน้า" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

สำหรับในส่วนอื่น ๆ เช่นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร ทางพรรคเพื่อไทยยังคงใช้กรอบนโยบายเดิมที่เคยใช้ก็คือการจำนำข้าวที่ราคา 15,000 บาท จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ทางพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยได้ใช้นโยบายจำนำราคาข้าวนั้น ปรากฎว่าเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์มีเพียงหลักหมื่นเท่านั้น แต่นโยบายประกันรายได้ที่ทางรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินมานั้น ขณะนี้มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์โดยนับจากจำนวนบัญชีเงินฝากที่มีการโอนเงินประกันรายได้เข้าสู่บัญชีนั้นมีถึง 3.2 ล้านบัญชี จะมีความแตกต่างทั้งในเรื่องบุคคลที่ได้ประโยชน์ และในเรื่องของจำนวนมูลค่าที่จะทำให้เกษตรกรนั้นมีหลักประกันไม่ให้เกิดภาวะหนี้สินจากการปลูกข้าวหรือปลูกพืชสินค้าเกษตรอื่นๆ

ส่วนนโยบาย “3 หก" ซึ่งเป็นนโยบายที่มีการการขับเคลื่อนในเรื่องของการลดภาระค่าใช้จ่ายใน 6 เดือนแรก การเพิ่มรายได้ในช่วง 6 เดือนหลัง และการขยายโอกาสในช่วง 6 เดือนสุดท้าย รวมแล้วจะใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน ซึ่งพรรคฯ มีความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความคิดที่แยกส่วนและขาดการเชื่อมโยง และจะทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยควรใช้เวลาในการทบทวนและนำเสนอแผนขั้นตอน โดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะไม่ได้ตามเจตนาที่มีการประกาศไว้ และส่วนสำคัญที่สุดก็คือนโยบายที่ได้ผลในการแก้ไขปัญหาประชาชนนั้นต้องมาควบคู่กับการบริหารจัดการที่ชัดเจน รวมไปถึงทีมงานบุคลากรด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวนั้นจะดำเนินการภายใต้ใครที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหาร เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี

แต่ทั้งหมดนั้นกลับไปผูกไว้กับตัวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณว่าเงื่อนไขสำคัญที่จะดำเนินนโยบายเหล่านี้ได้นั้นจะต้องนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาบริหาร ซึ่งก็สะท้อนถึงการที่ไม่สามารถหาตัวบุคคลที่มีความสามารถเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะเข้ามาเป็นตัวเลือกในการบริหารชาติบ้านเมืองได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ