นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า พรรคฯ ได้ตั้งทีมเศรษฐกิจเพื่อให้ความสำคัญกับการทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปีสุดท้ายที่จะบริหารบ้านเมืองให้เศรษฐกิจเกิดความมั่นคง ซึ่งช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผลงานที่เป็นรูปธรรมในการฟื้นความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจในประเทศไทย โดยดูได้จากการขยายตัวปี 2553 ของภูมิภาคอาเซียน
การจัดตั้งทีมงานด้านเศรษฐกิจขึ้นมามีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนคือ 1.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม 2.อธิบายนโยบายและขีดความสามารถในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
โดยทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.ดูแลด้านการเงิน, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.เป็นโฆษกด้านเศรษฐกิจ, นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ดูแลเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ส.ส.กทม.ดูแลด้านพลังงานและมาตรการลดค่าครองชีพ พร้อมผลักดันนโยบายด้านพลังงานของประเทศ, นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. ดูแลด้านกองทุน, นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ส.ส.นครสวรรค์ ดูแลด้านนโยบายไอซีที, นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี ดูแลด้านสินค้าเกษตร และนายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.กทม. ดูแลด้านการคมนาคมและการค้า โดยดำเนินการผ่านกระทรวงเศรษฐกิจและให้ข้อมูลภาพรวมด้านเศรษฐกิจแก่รัฐบาล
นายสรรเสริญ กล่าวว่า นโยบายประชาวิวัฒน์ที่รัฐบาลกำลังผลักดันนั้น ต่อไปรัฐบาลจะไม่ใช้ชื่อดังกล่าว แต่ตอนนี้กำลังหาชื่อที่เหมาะสมอยู่ โดยหลายฝ่ายเข้าใจว่านโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายประชานิยม ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เพราะนโยบายนี้เน้นการปรับโครงสร้าง และให้โอกาสกับกลุ่มประชาชน ซึ่งจะมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่เป็นกำลังหลักสำคัญในการผลักดันเรื่องดังกล่าวและต่อไปจะมีการทยอยประกาศนโยบายใหม่ๆ ออกมาอีกมาก