นายกรัฐมนตรีตั้งเป้าหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าระบบรัฐสภาจะมีวุฒิภาวะเพิ่มสูงขึ้น ไร้ความขัดแย้งและความรุนแรง ส่วนภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวและสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยภาคเกษตรกรรมและภาคบริการเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมบางสาขา เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์
"หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมก็ตั้งใจและหวังที่จะเห็นประเทศไทยปรับเข้าสู่ระบบรัฐสภาที่มีวุฒิภาวะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก และเริ่มหลีกพ้นจากปัญหาความขัดแย้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามรณรงค์เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย รวมทั้งการให้ความเคารพและยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ยอมรับว่า ไม่เคยคิดว่าจะบริหารบ้านเมืองได้ยาวมาจนถึงวันนี้ได้ ท่ามกลางวิกฤตบ้านเมืองหนักหนาสาหัส แต่ขอยืนยันจะไม่นั่งบริหารครบเทอมและเตรียมยุบสภาในปีหน้าแน่นอนเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งตามกติกาตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าประชาชนต้องการเลือกใครเข้ามาทำงานในสภา ซึ่งเชื่อว่าเป็นการลดความตึงเครียดได้ในระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในช่วงหาเสียง
ส่วนกรณีที่มีผลสำรวจชี้ว่าการทำงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาสอบผ่านอย่างฉิวเฉียดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าตัวเลขในทางเศรษฐกิจดีกว่าที่คิดไว้ในภาวะสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ซึ่งการให้คะแนนเช่นนี้ถือเป็นสิ่งดีที่ทำให้รัฐบาลต้องกระตุ้นให้พยายามมากขึ้น