นายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ว่า คนไทย 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัวในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและรุกล้ำเขตพื้นที่ทหารกัมพูชานั้น ได้เดินล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาร้าย ซึ่งสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความช่วยเหลือตอนนี้คือการตั้งทนายความเพื่อสู้คดี โดยวันพรุ่งนี้ศาลจะนัดไต่สวนนัดแรก
ด้านพล.ต.นพดล โชติศิริ รองเจ้ากรมแผนที่ทหาร กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปวัดพิกัดเพื่อกำหนดจุดที่คนไทย 7 คนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 53 ว่าอยู่ในพื้นที่ใด โดยผลการวัดพิกัดสำรวจพบว่า จุดที่คณะของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับกุมอยู่ที่หน้าซุ้มประตูวัดโจกเจีย ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างจากหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ประมาณ 55 เมตร และอยู่ก่อนถึงทางเข้าวัดโจกเจียประมาณ 350 เมตร
พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่จะอยู่ระหว่างการหาข้อยุติเรื่องการปักปันเขตแดน โดยชั้นต้นอยู่ในขั้นสำรวจปักปันเขตแดน การที่กลุ่มคนไทยเข้าไปในพื้นที่อาจเกิดขึ้นได้จากความเข้าใจผิด
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ในรายการคุยนอกทำเนียบว่า คนไทยทั้งหมดได้ข้ามแนวแบ่งเขตไป 55 เมตร และจุดดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นเขตปกครองของประเทศใดระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา และยังเห็นต่างเรื่องการลากเส้นระหว่างหลักเขตประเทศ 46 กับ 47
ส่วนกรณีที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัวแล้วไม่ยอมส่งกลับไปในวันแรก เนื่องจากทั้ง 7 คนไทยได้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่มีการประสานกับหน่วยความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย ทำให้มีการรายงานไปยังกรุงพนมเปญ อำนาจหน้าที่ในการควบคุมตัวจึงพ้นจากความรับผิดชอบจากส่วนท้องถิ่นไปยังส่วนกลาง
ประกอบกับ นายวีระ สมความคิด ก็เคยถูกจับและปล่อยตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทางการกัมพูชาไม่ยอมปล่อยตัวอีก