นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า พรรคฯ เตรียมขับเคลื่อนนโยบายชุดวาระประชาชนปี 2554 ซึ่งขณะนี้ได้มีการยกร่างและผลักดันผ่านการทำงานของรัฐบาลที่พรรคฯ เป็นแกนนำ โดยนายกรัฐมนตรีจะแถลงอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้(9 ม.ค.)
โดยนโยบายชุดนี้จะมีการปฏิบัติทันทีหลังผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดในเรื่องของการปฏิรูปความเลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคม พร้อมทั้งสร้างโอกาส ขยายขีดความสามารถของคนไทยทุกคน ให้หลักประกันความมั่นคง ที่จำเป็นในทุกช่วงของชีวิต
ซึ่งนโยบายดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ชุด ในส่วนของแผนเร่งรัฐปฏิบัติการด่วนเพื่อคนไทยนั้นจะใช้กรอบความคิดเรื่องประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นวิธีคิดในการแก้ไขปัญหาที่ค้างมามาแต่อดีต ได้แก่ กลุ่มประชาชนที่ยังไม่มีหลักประกันจากการทำงาน เพราะมีการประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งนโยบายชุดนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.เศรษฐกิจนอกระบบ 1.1 การขยายโครงการประกันสังคมให้คลอบคลุมคนไทยโดยขับเคลื่อนตามมาตรา 40 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา 1.2 การขยายระบบสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินของรัฐให้เข้าถึงผู้ประกอบอาชีพที่อยู่ในระบบแรงงานนอกระบบ 1.3 การจัดให้ผู้ขับรถรับจ้างทั้งหมดที่อยู่นอกระบบให้กลายเป็นระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย 1.4 แปรสภาพหาบเร่แผงลอย ให้มีสิทธิ และมีกฎหมายรองรับในการทำมาหากิน 2.การลดภาระค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ประกอบไปด้วย 4 มาตรการ คือ การลดราคาน้ำมัน, การลดค่าไฟฟ้า, การลดต้นผลิตอาหารจำเป็น 4และใช้ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า แก้ไขปัญหาการผูกขาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และ 3.การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยใช้รูปแบบการปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจ เพื่อรองรับความปลอดภัยของประชาชน
โฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 9-11 ม.ค.จะมีการประกาศ 3 ยุทธศาตร์ในการปฏิรูปประเทศ 1.ยุทธศาสตร์การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขยายสวัสดิการสังคม เข้าสู่ระบบประกันสังคมแบบถ้วนหน้า และมีส่วนร่วมในการสร้างหลักประกันความั่นคงแก่ชีวิต 2.การจัดสวัสดิการให้กับเด็กในช่วง 3-5 ขวบ ที่สามารถเข้าสู่ศูนย์พัฒนาเด้กเล็กที่มีทุกตำบลทั้วประเทศภายในปี 2554 และ 3.การขยายหลักประกันความมั่นคงในแรงงานนอกระบบ โดยการเสนอทางเลือกให้ผู้ประกอบอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ทั้ง 10 ล้านคน นอกจากนี้คือการแก้ไขปัญหาที่ทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเลื่อมล้ำในสังคม โดยจะมีการตั้งกลไกระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำกินของประชาชน ขณะเดียวกันจะมีการขยายโครงการบ้านมั่นคงสู่ชนบท เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะให้ความครอบคลุม 5 หมื่นครัวเรือนใน 500 ตำบล
นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์การสร้างอนาคตของชาติด้วยการพัฒนาคน เด็ก และ เยาวชน โดยสร้างโอกาสทางการศึกษา และพัฒนาทักษะอาชีพให้กลุ่มเยาวชนให้มีความสามารถพึ่งพาตนเอง ตลอดทั้งกลุ่มเด็กพิการให้สามารถเข้าสู่ระบบ เรียนดี เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ และสามารถขยายเวลาอยู่ในโรงเรียนไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัยทั้วประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลจะส่งเสริมระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนที่ต้องการฝึกอาชีพ หรือหาความรู้ภายหลังที่ศึกษาจบแล้ว
โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงโครงการคืนครูดีให้กับสังคม โดยการพัฒนาอาชีพครู 6 หมื่นคนทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็จะมีการขับเคลื่อนการสร้างอนาคตเด็กและเยาวชนตามแผนปฏิรูป รวมทั้งให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการศึกษา และที่สำคัญจะมีการประกาศนโยบายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยจะมี 3 มาตรการ 1.การสร้างความเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรม โดยการตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน ตำบลละ 1 ศูนย์ทั่วประเทศ 2.แก้ไขปัญหากฎเกณฑ์ของรัฐ ที่เป็นช่องว่างในการทุจริต เพื่อให้การทำงานของรัฐเป็นไปตามกฎเหล็ก 9 ข้อ และ 3.การใช้สื่อเพื่อสังคมในระดับประเทศ และท้องถิ่น เพื่อรณรงค์สร้างค่านิยมและพฤติกรรมที่จะเป็นความเข้มแข็งในการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับสังคม
"ทธศาตร์ทั้งหมดนี้จะเป็นมาตรการที่จะดำเนินการไปตลอดช่วงควบคู่แผนเร่งรัฐปฏิบัติการด่วนเพื่อคนไทยจนเสร็จสิ้นอายุรัฐบาล และจะสานต่อเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ในการรณรงค์หาเสียงเพื่อให้ประชาชนมีความหวังได้ว่านโยบายที่รัฐบาลดำเนินมาตลอดมาจะได้รับการสานต่อ" นพ.บุรณัชย์ กล่าว