นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช.คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า คณะทำงานฯ ได้วิเคราะห์แผนประชาวิวัฒน์ 9 ข้อตามที่รัฐบาลได้ประกาศออกมาแล้วเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าผิดหวังมาก เพราะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ที่ไม่น่าจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนจำนวนมาก และเหมือนเป็นการขายฝันในอนาคต เพราะปัจจุบันการบริหรงานของรัฐบาลยังไม่มีเรื่องใดประสบความสำเร็จ มีแต่เพิ่มภาระให้แก่ประชาชนมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลระบุว่าจากแผนดังกล่าวใช้เงิน 2,000 ล้านบาท แต่จะทำให้เกิดประโยชน์กลับมาเป็นมูลค่าถึง 20,000 ล้านบาทนั้น ก็ยังไม่แน่ใจว่าในความเป็นจริงแล้วจะเพิ่มได้ขนาดนั้นหรือไม่ และหากเพิ่มได้จริงก็คิดเป็นเพียง 0.20% ของจีดีพีเท่านั้น
นายพิชัย ได้ตั้งคำถาม 8 ข้อต่อแผนประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลไว้ ดังนี้ 1.การที่รัฐบาลใช้ธนาคารของรัฐปล่อยกู้นั้น ในกรณีที่เกิดหนี้เสีย รัฐบาลจะต้องเข้าไปรับผิดชอบหรือไม่ 2.เงินสมทบสวัสดิการจะมากกว่า 2,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะเป็นภาระของประเทศ อยากถามว่ารัฐบาลได้มีการคำนวณค่าใช้จ่ายแน่นอนแล้วหรือ เพราะมองว่าการสมทบดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นทุกปีหากแรงงานทั้ง 24 ล้านคนเข้ามาอยู่ในระบบ ซึ่งอาจทำให้รัฐต้องส่งเงินสมทบถึงปีละ 14,400 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามว่าผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมและจ่ายเงินประกันสังคมอยู่แล้วทุกเดือนจะมีความแตกต่างอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดสองมาตรฐานในระบบสวัสดิการ และระบบการรักษาพยาบาล
3.การแยกราคาก๊าซออกเป็น 2 ตลาดนั้น ในความเป็นจริงจะทำได้ขนาดไหนที่จะห้ามไม่ให้ทีการถ่ายแทกันในระหว่างสองตลาด 4.การที่จะลดราคาและลดต้นทุนสินค้าเกษตรนั้น อยากให้รัฐบาลได้พิจารณาว่าเรื่องต้นทุนสินค้าเกษตรอยู่ในการควบคุมของใคร เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ รัฐบาลจะกล้าแตะต้องหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลน่าจะเจรจากับบริษัทโดยตรงจะดีกว่า
5. การนำแนวนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือนของพรรคพลังประชาชนไปต่อยอดถือเป็นเรื่องดี แต่รัฐบาลต้องศึกษาให้รอบคอบในกรณีเรื่องการใช้ไฟฟรี เพราะอาจผิดแนวคิดที่ต้องการให้ประชาชนประหยัดการใช้พลังงาน ดังนั้นควรช่วยเหลือเป็นบางช่วงเท่านั้นไม่ควรทำเป็นแบบถาวร เพราะจะไม่เป็นการยุติธรรมแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าฟรีที่ต้องมาแบกภาระเพิ่ม
6. ขณะที่รัฐบาลระบุว่าจ่าย 2,000 ล้านบาท แต่ให้ประโยชน์ประชาชนจำนวนมากเพียง 20,000 ล้านบาท แต่กลับใช้เงินถึง 13,000 ในการขึ้นเงินเดือนให้กับ ข้าราชการ ส.ส, ส.ว และองค์กรอิสระที่มีจำนวนน้อยกว่ามาก ประกอบกับผลสำรวจหลายสำนักบอกว่ามีทุจริตในโครงการรัฐถึงกว่าแสนล้านบาท ซึ่งไปเข้ากระเป๋าคนจำนวนไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลมองการกระจายงบประมาณในเรื่องนี้อย่างไร
7. การที่รัฐบาลต้องมาออกนโยบายลดอาชญากรรม เท่ากับยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลล้มเหลวกับการปราบปรามอาชญากรรมอย่างสิ้นเชิงใช่หรือไม่ อีกทั้งการปราบปรามอาชญากรรมน่าจะเป็นหน้าที่ของรัฐาลอยู่ จึงไม่น่าจะมาเป็นนโยบายประชาวิวัฒน์แต่อย่างไร
8. กรอบคิดทางการศึกษา ความเป็นธรรมในระบบยุติธรรม ที่เคยพูดไว้ก่อนและถูกวิจารณ์ไปก่อนหน้านี้หายไปไหน หรือรัฐบาลเห็นว่าไม่ได้สามารถทำให้เป็นจริงได้เลยต้องเลิกไป
นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลทำเหมือนกลัวจะถูกตำหนิว่าใช้เงินมากจึงพยายามทำตัวเลขให้ดูน้อย แต่ที่จริงแล้วมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอยู่มาก ดังนั้นคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจึงอยากให้รัฐบาลคำนึงว่าหารายได้จากที่ไหนมาจ่าย โดยรายจ่ายจะเพิ่มขึ้นทุกปี ใช้ไปแล้วจะมีรายได้กลับคืนมาหรือไม่ จะหารายได้เพิ่มได้อย่างไร และจะพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างไร