นายไพบูลย์ นิติตะวัน แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. เปิดเผยว่า ตามที่มี ส.ว.สรรหา 74 คน ต้องพ้นวาระตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในวันที่ 18 ก.พ.นั้น ขณะนี้ในส.ว.สรรหามีการพิจารณาอยู่ 3 แนวทางคือ 1.ลาออกก่อนวันที่ 18 ก.พ. 2. ลาออกก่อนวันยื่นใบสมัคร 1-2 วัน และ 3.ไม่ลาออกจนจะมีการรับสมัครใหม่
โดยในส่วนของตนนั้นจะขอเลือกแนวทางการลาออกก่อนวันรับสมัคร 1-2 วัน ซึ่งตามข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะเปิดรับสมัครในช่วงต้นเดือนมี.ค. เพราะต้องการให้เข้ามาทำหน้าที่สำคัญ 2 เรื่องในฐานะสมาชิกรัฐสภาคือ 1.การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 2.พิจารณาบันทึกผลการประชุมร่วมคณะกรรมาธิการไทย-กัมพูชา(เจบีซี) เว้นแต่มีความชัดเจนจากคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ว่า จะต้องให้ ส.ว.สรรหาทั้งหมดลาออกเมื่อใด
อย่างไรก็ดี ไม่มั่นใจว่า ส.ว.สรรหาจะได้พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2-3 หรือไม่เพราะคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาจะพิจารณาเสร็จไม่ทันในช่วงเดือน ก.พ.54
นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้ว่ากลุ่ม 40 ส.ว.จะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 ส่วนตัวแล้วสนับสนุนให้ยืนตามร่างเดิมที่ผ่านความเห็นของคณะรัฐมนตรี คือ ระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว 375 คน และระบบบัญชรายชื่อ 125 คน และเชื่อว่าระบบเลือกตั้งสูตรนี้จะผ่านความเห็นชอบขั้นสุดท้ายในวาระ 3 เพราะหากพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ในเรื่องนี้อาจส่งผลให้เกิดการยุบสภาได้
อนึ่ง สำหรับความพร้อมของ กกต.ในการสรรหา ส.ว.ปี 54 นั้น คาดว่า กกต.จะเปิดรับสมัครการลงทะเบียนขององค์กรที่จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาในระหว่างวันที่ 1-15 มี.ค.54 และจะสามารถประกาศผลการสรรหา ส.ว.พร้อมเสนอต่อประธานรัฐสภาได้ภายในวันที่ 15-19 เม.ย.54 ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้การสรรหาแล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันครบวาระ