ประธานรัฐสภาชี้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องที่ต้องเร่งรีบดำเนินการ และมั่นใจจะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลแม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันแต่ในที่สุดแล้วต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมฯ
"ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะหลายรัฐบาลที่ผ่านมาผลักดันแก้ไขแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที และไม่มีใครเดือดร้อน" นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าว
เมื่อวานนี้(11 ม.ค.) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้มีมติ 18 ต่อ 17 เสียง เห็นชอบให้กำหนดสัดส่วนของ ส.ส.ระบบแบ่งเขต 375 คน และ ส.ส.ระบบสัดส่วน 125 คน ตามร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของคณะรัฐมนตรี
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับผลการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว แต่หากทางคณะกรรมาธิการฯ ส่งเรื่องมาให้ ตนเองก็ต้องปรึกษาไปยังรัฐบาลในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขอีกครั้งว่าพร้อมจะประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อใด และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาชี้ขาดว่าจะมีมติอย่างไร โดยสมาชิกรัฐสภาที่ไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมาธิการฯ มีสิทธิที่จะขอแปรญัตติเพื่อโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาคนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยตาม ทั้งนี้หลังพิจารณาวาระที่ 2 แล้วต้องทอดเวลารออีก 15 วันก่อนที่จะพิจารณาในวาระที่ 3
ส่วนกรณีที่ ส.ว.สรรหาจำนวน 74 คน จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงกลางเดือน ก.พ.นั้น นายชัย กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการลงมติในร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากมีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 315 เสียง เข้าร่วมประชุมก็สามารถดำเนินการพิจารณาได้ทันที โดยไม่ต้องรอสรรหา ส.ว.ชุดใหม่
ส่วนกรณีที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขู่ไม่โหวตให้ในการประชุมวาระ 2 และ 3 หากมีการเปลี่ยนแปลงมติของคณะกรรมาธิการฯ นายชัย กล่าวว่า เรื่องนี้หากนายกรัฐมนตรียุบสภาก็มีผลต่อ ส.ส.ทุกคน