นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ระบุว่า การจัดทำงบประมาณกลางปี 54 ของรัฐบาลน่าจะมีวาระซ่อนเร้นและไม่มีความโปร่งใส เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลมาว่ารัฐบาลได้สั่งให้หน่วยราชการเตรียมจัดทำงบประมาณกลางปี 54 โดยอ้างว่าเพื่อต้องการจะฟื้นฟูความเสียหายจากปัญหาภัยพิบัติในปีที่ผ่านมา และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปชดเชยเงินคงคลังที่รัฐบาลได้นำออกมาใช้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงต้องตั้งงบประมาณไว้สำหรับการใช้คืนในงบปี 55 ถึง 8.2-8.3 หมื่นล้านบาท
ขณะที่รัฐบาลระบุว่าการจัดเก็บรายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบ 54 (ต.ค.-ธ.ค.53) สามารถจัดเก็บได้เกินเป้าถึง 4 หมื่นล้านบาท
"ผมเห็นว่าการจัดทำงบกลางปี 54 ครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้น เป็นแบบเร่งด่วนมุบมิบ มีเงื่อนงำ ไม่โปร่งใส การทำงบกลางปี โดยหลักการจะจัดทำในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงานต่างๆ แต่เมื่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอ้างว่าบริหารประเทศแล้วเศรษฐกิจดี GDPโต และรัฐบาลจะจัดทำงบกลางปีอย่างเร่งด่วนไปทำไม" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังถามไปยังรัฐบาลว่าการจัดทำงบประมาณกลางปี 54 เพราะรัฐบาลหวังจะนำงบส่วนนี้ไปใช้หาเสียง หรือแบ่งปันงบประมาณกับพรรคร่วมรัฐบาล หรือหวังใช้งบประมาณปิดปากพรรคร่วมในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นสูตรส.ส.ให้เป็น 375:125 ตามที่รัฐบาลต้องการหรือไม่
ทั้งนี้หากเป็นจริงตามที่ได้รับทราบมา ถือว่าเป็นเรื่องที่สังคมต้องประณามรัฐบาลที่มีความคิดเช่นนี้ อย่างไรก็ดี ต้องการให้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงสาเหตุและความจำเป็นที่แท้จริงในการจัดทำงบประมาณกลางปีดังกล่าวหากมีความบริสุทธิ์ใจจริง
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช.คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกตกใจจากที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะออกงบกลางปีอีกเป็นแสนล้านบาท เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะพาประเทศไปสู่การเป็นหนี้สินอย่างมากเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง
ขณะเดียวกันมองว่าการจัดทำงบประมาณกลางปีจะเป็นการผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรง เพราะเศรษฐกิจของประเทศกำลังฟี้นตัว และอัตราเงินเฟ้อกำลังจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพิ่งมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ แต่รัฐบาลกลับจะคิดอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบซึ่งจะทำให้เกิดเงินเฟ้อมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวว่า อดคิดไม่ได้ว่าเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าเพิ่มเติมจากนโยบายประชาวิวัฒน์ 9 ข้อ ซึ่งรัฐบาลอาจหวังว่าจะนำงบกลางปีมาใช้ซื้อใจพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงขอเตือนรัฐบาลว่าอย่าหวังที่จะหาเสียงแต่เพียงอย่างเดียว โดยนำความมั่นคงทางการคลังของประเทศมาเสี่ยง